อนุสาสนีย์ปาฏิหารย์

คำสอนของพระเทพสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)

เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี

 

พ่อ-แม่-ลูก

ท่านโปรดจำอาตมาไว้ คนแก่ว้าเหว่ ปู่ย่าตายายที่แก่แล้ว ว้าเหว่ตลอดชาติ ลูกไม่มาหา หลานไม่มาสู่ พ่อแม่ก็หมดกำลังใจ พอเห็นลูกมาหา หลานมาสู่ ก็ชื่นอกชื่นใจฯ

ผู้สูงอายุ ผู้ปลดเกษียณ ลูกไม่มาหา หลานไม่มาสู่ มันว้าเหว่ ... คนสูงอายุจะพบกับการสูญเสียสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น ล้วนแต่เป็นกระบวนการทางธรรมชาติเกือบทั้งสิ้น .. ถ้าไม่ใช้หลักศาสนาก็จะกลายเป็นคนจู้จี้จุกจิกขี้บ่น อารมณ์แปรปรวนง่าย ๆ เลือดจะไปลมจะมาเป็นต้นฯ

ขอให้ผู้สูงอายุรักษาสุขภาพพื้นฐาน อายุจะได้ยืนยาวต่อไป

•  อาหารดี ต้องจำกัดอาหาร อย่าทานมากไปหรือน้อยไป คนไหนทานมาก นอนมาก ตายไว

•  อากาศดี โปรดหายใจยาว ๆ เข้าไว้ ถ้าโกรธต้องรีบกำหนดถ้าฝากความโกรธไว้ข้ามคืนอายุจะสั้น โรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน

•  อารมณ์ดี ดีใกำหนด เสียใจก็กำหนด โกรธใคร โมโหใครก็กำหนด ไม่สุข ไม่ทุกข์ก็กำหนด

•  อาภรณ์ดี เสื้อผ้าต้องซักให้สะอาด

•  ออกกำลัง ตี ๔ ลุกขึ้นมาเลย เตะขาออกไป หมุนแขนให้ได้ร้อยครั้ง ฯ

 

ขอท่านผู้สูงอายุโปรดรักษาตนให้เป็นปกติ ควรยึดหลักทำกรรมฐานเป็นหลักพิจารณาโดยธรรม ๔ มีประการ (หลักแห่งความถูกต้องเพื่อวัดความถูกต้องที่แน่นอน)

•  หมั่นระลึกถึงความดีของท่าน ที่ทรงคุณความดีระดับสูงไว้เป็นประจำ

•  หมั่นสร้างความรัก ความปรารถนาดีแก่คนและสัตว์ทั้งหลายอยู่เป็นประจำ

•  หมั่นระลึกเสมอว่า สิ่งทั้งปวงในโลกนี้ ตามสภาพที่แท้จริง ไม่มีอะไรสวยงามเลย ไม่มีอะไรน่ารักน่าใคร่หลงใหล แต่ประการใดเลย

•  หมั่นระลึกถึงสิ่งที่เป็นจริง และความจริงประการสุดท้ายของชีวิต คือ ความตายไว้เป็นประจำ

 

ผู้สังขารเสื่อม โปรดหาหลักธรรมประจำใจเสียวันนี้ .. สติและสมาธิ เป็นยอดธัมมะที่คนสูงอายุต้องมีประจำใจไว้ให้ได้ จึงจะเป็นคนสูงอายุที่น่าเคารพรัก เป็นหลักให้ลูกหลานได้มีที่พึ่งพาทางใจ ... ผู้สูงอายุควรสละหรือแบ่งเวลาให้แก่ธัมมะบ้าง หมั่นศึกษาค้นคว้า ฟัง อ่านธัมมะสวดมนต์ไหว้พระให้มากตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จงรีบปฏิบัติธรรมเสียตั้งแต่บัดนี้

•  เจริญพระกรรมฐาน

•  หมั่นให้ทาน มีการใส่บาตรประจำวัน

•  หมั่นเจริญมรณะสติ

 

เตรียมตัวตอนแก่ไม่ทันการณ์

หลวงพ่อไปพบสามีภรรยาคู่หนึ่งยากจนมาก อายุ ๘๒ และ ๗๖ ปี ตามลำดับ อยู่ที่อำเภอน้ำหนาว มีอาชีพปลูกกระหล่ำปลีขาย เมื่อเขาเห็นหลวงพ่อก็รีบเข้ามาหา หลวงพ่อให้เงินไป ๑,๐๐๐ บาท สามีเล่าให้หลวงพ่อฟังว่า เขาเกิดมาในตระกูลยากจน หาเช้ากินค่ำ เรียนหนังสือโรงเรียนวัด พออ่านออกเขียนได้ก็ลาพ่อแม่ออกจากบ้าน แล้วไม่เคยกลับมาหาพ่อแม่เลย และไม่เคยส่งเงินให้พ่อแม่เลย เมื่อตัวเองมีภรรยา มีลูก ๗ คน ลูกก็หาเรียนเอง มีงานมีการทำก็แยกย้ายออกไป ไม่เคยกลับมาเยี่ยมเขาและภรรยาหรือส่งเสียเงินทองเลย กฎแห่งกรรมของตาแก่ ทำให้ตกถึงลูก ลูกไม่เอาเงินมาให้ ไม่เคยช่วยพ่อแม่ นี่ชัดเจนมาก ต้องเตรียมตั้งแต่ต้น ไม่ใช่มาเตรียมตอนแก่

ไม่ได้เตรียมตัวไว้ ต้องพึ่งตัวเอง หลวงพ่อไปธุระแถวบางระจันก็เลยแวะเยี่ยมโยมหญิงคนหนึ่งเป็นอัมพาต ช่วยตัวเองไม่ได้ เหม็นอุจจาระมาก ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ทานอะไรเลย สักพักหนึ่งมีรถ BMW วิ่งเข้ามาจอดที่บ้าน ในรถมีคนห้าคน ทั้งหมดขึ้นมาบนบ้าน หลวงพ่อถามว่าหนูเป็นใคร เขาบอกว่าเป็นลูก เรียนปริญญาโทจุฬา จะไปเผาศพญาติของเพื่อนที่อยุธยา เลยแวะมาหาแม่เพื่อจะมาบอกว่า เดือนหน้าขอเงินสี่หมื่นไปพิมพ์วิทยานิพนธ์ หลวงพ่อบอกว่า ไหน ๆ มาแล้วช่วยซักผ้าให้แม่หน่อย อุจจาระเต็มไปหมด แม่ยังไม่ได้ทานข้าวเลย นี่แม่ของเธอนะ ถ้าเป็นแม่ของหลวงพ่อจะซักให้เดี๋ยวนี้เลย มีวินัยอนุญาตให้ทำได้ แม่ร้องไห้โฮเลย และบอกหลวงพ่อว่า ลูกคนนี้หมดนาไป ๔-๕ แปลงแล้ว จะมาเอาอีกแปลงหนึ่ง รถ BMW ก็ยังส่งไม่หมด เมื่อย้อนดูตัวแม่ ปรากฎว่า ตนเองไม่เคยซักผ้าให้แม่ และแม่ก็เป็นอัมพาตไม่เคยอยู่ปฏิบัติแม่ เพียงไปเยี่ยมแล้วก็กลับ พอมาถึงตัวเองก็เป็นอย่างนี้แหละหนอ ไม่ได้เตรียมตัวเลย ไม่เคยเจริญกุศลภาวนา ไม่เคยสวดมนต์ไหว้พระ ไม่เคยปฏิบัติกรรมฐานแต่ประการใด จึงเป็นดังที่กล่าวมา การเตรียมตัวนี้ต้องเจริญกุศลภาวนา ถึงจะรู้กฎแห่งกรรมจากการกระทำถึงจะแก้ปัญหาชีวิตได้อย่างแน่นอน ในที่สุด นาก็หมด บ้านก็หมด พ่อแม่ต้องขายเอาเงินแจกลูกไป นี่เป็นกฎแห่งกรรม

เตรียมตัวก่อนตาย เราเจ็บเสียแล้ว ลูกเอ๋ย ช่วยแม่หน่อย ลูกเอ๋ยช่วยพ่อหน่อย ลูกเขาไม่ช่วย ก็เสียใจ ทำใจไม่ได้ เลยไปนรก เตรียมทำใจตั้งแต่บัดนี้ทุกคน ใครทำใจไม่ได้ ก็ฝากความเสียใจ ฝากนรกไว้ในใจของเราคนเดียว .. ถ้าเจ็บคราวใดไม่มีใครพยาบาล ก็ทำใจเสียให้ได้ ลูกก็ไม่เห็นหน้า หลานก็ไม่มา ทำใจเถิด เรามาคนเดียว ก็ไปคนเดียว ทำใจเสียก่อน อย่าไปหวังอะไรจากใคร.. ปวดหนอ ลูกเอ๋ยมาช่วยบีบให้พ่อ ให้แม่หน่อย ลูกเขาไม่มาบีบก็เสียใจ สมบัติก็ให้เขาไปแล้ว เลี้ยงลูกเอาบุญเถอะ โปรดทำใจ เรารักลูก หวังจะพึ่งลูกคนนี้ แล้วไม่ได้พึ่ง เตรียมทำใจเสียให้ได้ เราช่วยใครไป อย่าหวังผลตอบแทนเลย มิฉะนั้นเราจะเสียใจไปนรกฯ

เป็นที่น่าเสียใจว่า ความเจริญทางวัตถุ ทำให้คนไทยลืมความเป็นไทยไป .. ลองหันมุมกลับ มองสิ่งใกล้ตัว ที่บางท่านอาจลืมคำนึงถึง คือ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ผู้สูงอายุ ในปัจจุบันไม่ค่อยจะมีใครระลึกถึง... เด็กวันนี้ คือผู้ใหญ่ในวันหน้า ท่านเป็นหนุ่มสาวในวันนี้ ก็คือผู้ใหญ่ในวันนี้ และจะกลายเป็นผู้สูงอายุในวันหน้าเช่นกัน โปรดสร้างความดีไว้กับลูก ทำถูกไว้ให้กับหลาน ...แม้พ่อแม่จะร่ำรวยอย่างไร ลูกต้องมีน้ำใจกับพ่อแม่บ้างฯ

บางที พ่อแม่ตาย ปู่ ย่า ตา ยาย ตาย บางคนบอกไม่ฝันเห็นเลยไม่มีวี่แววเลย อย่างนี้ก็ทำบุญกันใหญ่ ข้อเท็จจริงไม่ใช่ ถ้าเห็นพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ที่ตายไปแล้ว มาวอบ ๆ แวม ๆ ให้เห็นเสมอ นั่นแหละไม่ดีหรอก เป็นเปรตประจำบ้าน ด้วยอำนาจโลภะของคนที่ตาย ห่วงใยสมบัติ ตายแล้วอยู่ที่นั่น ไม่มีทางไปที่อื่นแล้ว เกาะอยู่ที่นั่น ถ้าหมดห่วงหมดใย ไม่มีโลภะผูกใจไว้แต่ประการใด บุญกุศลดลบันดาล ไปสู่สุคติ โลกสวรรค์ เทวสถาน ได้ทันทีฯ

พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ตาย บริจาคทานชั้นสูง ไม่ต้องใช้เงินไปบอกลูกสอนหลานด้วยนะ อย่าไปกู้เงินเขามาทำศพ อย่านะ บาป บริจาคทานชั้นสูงเลย เคยเล่นการพนัน เลิก เคยเที่ยวผู้หญิงยิงเรือ เลิกเที่ยวเสเพล เลิก... เล่นไพ่หน้าศพเก็บค่าต๋ง นี่บาป คนไปทำบุญ ต้องละบาปได้ คนจะไปสร้างความดี ต้องละชั่วได้ ถ้าละบาปไม่ได้ อย่าไปทำบุญฯ

พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก ไม่ต้องไปตามพระอรหันต์ที่ไหนหรอก เหลียวดูพ่อแม่ในบ้านบ้าง แล้วท่านจะรู้สึกว่า ได้ทำดีตั้งแต่วันนี้แล้วฯ

อย่ายืนพูดกับพ่อแม่ อย่าบังอาจกับพ่อแม่ พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก ก่อนออกจากบ้านจึงต้องกราบพ่อแม่ ๓ หนที่เท้าฯ

ท่านโปรดจำไว้ วันเกิดของลูก คือ วันตายของแม่ เพราะวันที่ลูกเกิดนั้น แม่อาจต้องเสียชีวิต การออกศึกสงครามเป็นการเสี่ยงตาย สำหรับคนเป็นแม่ฉันนั้นฯ

ถ้าวันเกิดเลี้ยงเหล้า จดไว้ได้เลย จะอายุสั้น จะบั่นทอนอายุให้สั้นลง น่าจะสวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติธรรมให้พ่อแม่ วันเกิดของเรา คือวันตายของแม่เรา ไปกราบพ่อกราบแม่ ขอพรพ่อแม่ รับรองพ่อแม่ให้พรลูกรวยทุกคน ไปเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ให้อิ่มค่อยไปเลี้ยงเพื่อนฯ

สอนเด็กว่า วันเกิดของเรา อย่าพาเพื่อนมาให้พ่อแม่ทำครัวเลี้ยงนะ เธอจะบาป ทำมาหากินไม่ขึ้น เธอต้องเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ให้อิ่มก่อนแล้วจึงไปเลี้ยงเพื่อนทีหลังฯ

อยู่ในท้องแม่ เหมือนท้องแม่เป็นโรงแรม ดูดน้ำเลือด น้ำเหลืองของแม่ จนอายุครบกำหนดคลอด ดังนั้นต้องรักแม่ให้มาก ๆ ฯ

วิธีใช้หนี้พ่อแม่ไม่ยากเลย จงสร้างความดีให้กับตัวเอง และนี่ก็เป็นการใช้หนี้ตัวเอง ตัวเราพ่อให้หัวใจ แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองอยู่ในตัวแล้ว จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน จะไปแสวงหาแม่ที่ไหน บางคนรังเกียจแม่ว่าแก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม พอตัวเองแก่ก็เลยถูกลูกหลานรังเกียจ จึงเป็นกงกรรมกงเกวียน ยืดเยื้อกันต่อไปอีก

ใครที่คุณแม่ล่วงลับไปแล้ว ก็ให้หมั่นทำบุญ อุทิศส่วนกุศลไปให้ท่านและถ้าจะทำบุญด้วยการเจริญกรรมฐาน แล้วอุทิศส่วนกุศลไป การทำเช่นนี้ถือว่าได้บุญมากที่สุดทั้งฝ่ายผู้ให้และผู้รับ...

ผู้ใดก็ตามที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ก็ให้กลับไปหาแม่ ไปกราบเท้าขอพรจากท่าน จะมั่งมีศรีสุข ส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่าน ก็นำเทียนแพไปกราบขออโหสิกรรม ล้างเท้าให้ท่านด้วย เป็นการขอขมาลาโทษฯ

ขอฝากท่านไว้ไปสอนลูกหลาน อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่เลย ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก แค่คิดว่าพ่อแม่เราไม่ดี จะทำมาหากินไม่ขึ้น เจ๊ง ท่านต้องแก้ปัญหาก่อน คือถอนคำพูด ไปขอขมาลาโทษเสีย แล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่ มรรคผลเกิดแน่ฯ

บางคนลืมพ่อลืมแม่ อย่าลืมนะ การเถียงพ่อเถียงแม่ไม่ดีขอบิณฑบาต สอนลูกหลานอย่าเถียงพ่อเถียงแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อกับแม่ ไม่อย่างนั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร ก้าวถอยหลัง ดำน้ำไม่โผล่ฯ

บ้านหนึ่งพ่อมีเมีย ๔ คน เมียหลวงบอกลูกว่า พ่อเจ้าไม่ดี ลูกก็ไปด่าพ่อ ว่าพ่อแล้วมาบวชวัดนี้ บวชแล้วเดี๋ยวเป็นโน่นเป็นนี่ จนจะกลายเป็นโรคประสาท นี่แหละบวชก็ไม่ได้ผล หลวงพ่อก็ให้ไปถอนคำพูดและขอขมาลาโทษกับพ่อเขาก่อน แล้วกลับมานั่งกรรมฐานจึงได้ผล ( case นี้หลวงพ่อจะเตือนผู้เป็นลูกบ่อย ๆ ไม่ให้ว่าพ่อ แต่ให้เป็นเรื่องของแม่ที่จะแก้ปัญหานี้ ซึ่งหลวงพ่อสอนไว้แล้ว : ผู้รวบรวม)ฯ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฆ่าพ่อตาย แม่สงสาร พามาเจริญกรรมฐาน พอเข้าวัดมันร้อนไปหมด ปวดหัวเข้าไม่ได้ นี่เวรกรรมตามสนอง ปิตุฆาต มาตุฆาต ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน ทำกรรมฐานไม่ได้แน่นอน ต้องหันรถกลับ นี่เรื่องจริงในวัดนี้ฯ

คนที่มีบุญวาสนาจะกตัญญูกับพ่อแม่ คนเถียงพ่อเถียงแม่เอาดีไม่ได้... คนไม่พูดกับพ่อแม่ นั่งกรรมฐานร้อยปีก็ไม่ได้อะไร ? ถ้าไม่ขออโหสิกรรมฯ

ขออโหสิกรรม ที่คิดไม่ดีกับพ่อแม่ คิดไม่ดีกับครูบาอาจารย์ คิดไม่ดีกับพี่ ๆ น้อง จะไม่เอาอีกแล้ว เอาน้ำไปขันหนึ่ง เอาดอกมะลิโรย กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โย โทโส อันว่าโทษทัณฑ์ใด ความผิดอันใด ที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไป ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขอให้ คุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คุณพี่ คุณน้อง อโหสิกรรมให้ด้วย แล้วเอาน้ำรดมือ รดเท้าฯ

นี่แหละท่านทั้งหลายเอ๋ย เป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่มากมาย ยังจะไปทวงนา ทางไร่ ทวงตึก มาเป็นของเราอีกหรือ ตัวเองก็พึ่งตัวเองไม่ได้ สอนตัวเองไม่ได้ เป็นคนอัปรีย์จัญไรในโลกมนุษย์ ไปทวงหนี้พ่อแม่ พ่อแม่ให้แล้ว (ให้ชีวิต ให้.. ให้.. ให้ ..ฯลฯ) เรียนสำเร็จแล้วยังช่วยตัวเองไม่ได้ มีหนี้ติดค้าง รับรองทำมาหากินไม่ขึ้นฯ

หนี้บุญคุณอันยิ่งใหญ่ เหลือจะนับประมาณนั้น คือหนี้บุญคุณของบิดามารดาฯ

“ หนามแหลมใครเสี้ยม มะนาวกลมเกลี้ยงใครไปกลึง ” เด็กประถม ๔ พ่อเมาเหล้า เมากัญชา เล่นการพนัน แม่เล่นหวย ปัจจุบันเป็นด๊อกเตอร์อยู่อเมริกา หลวงพ่อสอนครั้งเดียว จำได้ บอกวันเกิดหนูซื้อขนม ๒ ห่อ เรียกพ่อแม่มานั่งคู่กัน แล้วกราบนะลูกนะ แล้วก็บอกพ่อแม่ว่าความผิดอันใดที่ลูกพลั้งเผลอด้วย กาย วาจา ใจที่คิดไม่ดีต่อคุณพ่อคุณแม่ ขอให้คุณพ่อคุณแม่อโหสิกรรมให้ แล้วล้างเท้าให้พ่อแม่ ลูกไม่มีสตางค์ลูกซื้อขนมมา ๒ ห่อ ให้แม่ก่อน ๑ ห่อ เพราะอุ้มท้องมา แล้วจึงให้พ่ออีก ๑ ห่อ ลูกขอปฏิญาณตนว่า ลูกขอเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ แล้วจะเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ ลูกจะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง พ่อฟังแล้วน้ำตาร่วง สร่างเมา ส่วนแม่ก็ร้องไห้ เลย พ่อแม่ ก็ให้สัญญากับลูกเลิกอบายมุขทั้งหมดฯ

ลูกหลานโปรดจำไว้ เมื่อแยกครอบครัว ไปมีสามีภรรยาแล้ว อย่าลืมไปหาพ่อแม่ ถึงวันว่างเมื่อไร ต้องไปหาพ่อแม่ ถึงวันเกิดของลูกหลานอย่าลืมเอาของไปให้พ่อแม่รับประทาน อย่ากินเหล้า เข้าโฮเต็ลฯ

ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้เป็นมงคลนาม ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะชื่อเป็นเพียงนามสมมุติแทนตัวเรา อย่างหลวงพ่อชื่อจรัญ ปู่ตั้งให้ หมดดูบอก เป็นกาลกิณี แต่ทำไมเจริญรุ่งเรือง ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้า ทำดีได้ดีฯ

ของดี ของปู่ ย่า ตา ยาย อย่าไปทำลายเลย ของพ่อแม่อย่าไปทำลายนะ หนีได้แน่นอน โยมมีกรรมฐาน มีทรัพย์ มีชื่อเสียง ความรัก บูชาทรัพย์ บูชาชื่อเสียง ความรักของพ่อแม่ได้ เงินจะไหลนอง ทองจะไหลมา .. พ่อแม่ให้อะไร เอาไว้ก่อน อย่าไปทำลายเสีย ถึงจะเป็นถ้วยพ่อแม่ให้มาก็ไว้เป็นที่ระลึกก็ยังดี อย่าเอาไปทิ้งขว้างฯ

ถ้าต้องการเจริญก้าวหน้าขอฝากไว้ด้วย คนเรามี ๒ ก้าว จะก้าวขึ้น หรือก้าวลงดำน้ำไม่โผล่ ก้าวลงมันง่ายดี ก้าวขึ้นมันต้องยาก ของชั่วมันง่าย หลั่งไหลไปตามที่ต่ำ นี่บอก สอนลูกหลาน ต้องการบรรจุงานไม่ต้องไปวิ่งเต้น ดูลูกเสียก่อน กุศลเพียงพอหรือเปล่า ต้องเพิ่มกุศล ตัวอย่าง เรียนจบครู สวดมนต์เข้าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นครู ทำงานธนาคารก็ได้ บริษัทก็ได้ เดี๋ยวมีคนรับ บางรายทั้งสอบทั้งสมัครหลายแห่งไม่เคยเรียกเลย อาตมาให้นั่งกรรมฐาน พอ ๗ วันผ่านไป พวกมาตามให้เข้าไปทำงานแล้วฯ

การสอนลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง คือ ผู้เป็นแม่ต้องหมั่นสวดมนต์ เป็นประจำฯ

พ่อแม่ได้ต้องบังคับลูกสวดมนต์ แต่พ่อแม่ต้องสวดมนต์เป็นตัวอย่างแล้วเขาจะสวดเองฯ

พ่อแม่เลี้ยงลูก เปรียบเหมือนปลูกต้นไม้ ปลูกอย่างมีระเบียบแบบแผน ต้นไม้ก็จะขึ้นอย่างมีระเบียบสวยงาม ตามแบบตามแผนที่วางไว้ ถ้าปลูกอย่างไม่มีระเบียบ นึกจะปลูกตรงไหนก็ปลูก เกะกะหาความสวยงามไม่ได้ จะไปโทษต้นไม้หรือคนปลูกฯ

โบราณท่านว่าไว้ รักลูกคิดปลูกฝังให้ลูกตั้งตนฝึกรักศึกษา ให้ลูกได้ดีมีปัญญา มีวิชาให้ลูกตั้งตนเป็นคนดี ต้นไม้ต้องปลูกตั้งแต่เล็ก ๆ โตแล้วแย่มากปลูกไม่ขึ้น ปลูกถี่มันขึ้นถี่ ปลูกห่างมันขึ้นห่างฯ

พ่อแม่สมัยใหม่ ไม่มีเวลาใกล้ชิดลูก เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันหมดไปกับการทำธุรกิจ หาทรัพย์สินเงินทอง มาปรนเปรอความสุขให้ลูกหลาน หาวัตถุสิ่งของที่จะสนองความต้องการของลูก เพื่อความสุขสบาย บ้างก็หาหนังให้ลูกดู ทั้งที่ลูกยังอยู่ในวัยเรียนวัยศึกษา แล้วลูกไม่ดีขึ้นมาในภายหลัง อย่าไปด่าลูกนะ เพราะพ่อแม่เป็นคนก่อสร้าง ปลูกนิสัยลูก และพ่อแม่ไม่ให้ความอบอุ่นแก่ลูก ไม่ให้การแนะแนวแก่ลูกฯ

โบราณว่าไว้มีลูกมีหลานจะต้องแต่งใจลูก แต่งตัวลูกและแต่งงานลูก แต่งใจลูก ก็คือ พาลูกหลานไปวัด ให้มีความสัมพันธ์กับวัด เห็นพระสงฆ์สอนลูกยกมือไหว้พระ อยู่บ้านก็สอนลูกสวดมนต์ไหว้พระ ให้มีค่านิยมพื้นฐานฯ

ตอนลูกยังเล็ก อย่าห่างลูก อย่าทิ้งลูก ต้องดูแลลูกให้ดี .... ลูกเราอยากได้ดีมีปัญญาทุกคน แต่เขาไม่ทราบ เขาไม่เข้าใจ ทำไมไม่บอกเขา... อาตมาไม่โทษเด็ก เด็กเขาเกิดมา อยากเป็นพระเอกนางเอกทั้งนั้นอยากรวย อยากสวย อยากดี อยากมีปัญญา แต่เขาไม่รู้ เขาไม่ทราบ เขาไม่มีวันเข้าใจฯ

ห่วงผูกคอ คือ จะกินอะไรก็ห่วงลูก พ่อแม่ถึงจะหิวอย่างไร หากว่าลูกอยากรับประทาน ก็ต้องให้ลูกก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วมันจะติดอยู่ที่คอ ห่วงผูกแขน คือสามีภรรยา ห่วงผูกขา คือทรัพย์สมบัติ

ถ้าท่านเป็นสามีภรรยาทะเลาะกัน ลูกจะหาความสุขไม่ได้นะ ขอฝากไว้ พ่อแม่รักกันดี ปรึกษาหารือกันดี ลูกจะดี มีความสุขฯ

พ่อแม่ ต้องสร้างความดีไว้ให้กับลูก ทำถูกไว้ให้กับหลาน รักให้ถูกวิธี ทำความดีให้ลูกดู เดี๋ยวนี้ ทำความชั่วให้ลูกดู กินเหล้าให้ลูกเห็น เล่นการพนันให้ลูกเห็น ทะเลาะกันให้ลูกได้ยิน ขอฝากพ่อบ้านแม่บ้านไว้ด้วย ถ้าเกิดจำเป็นจะทะเลาะกัน อย่าให้ลูกได้ยิน เกิดจะร้องไห้ น้ำตาไหลขึ้นมา โปรดกรุณาไปร้องในห้องสุขา อย่าไปร้องไห้ให้ลูกเห็นฯ

หน้าที่ของตน คือรับผิดชอบหน้าที่การงาน คนเราจะอยู่ได้ด้วยหน้าที่และการงาน พ่อแม่รับผิดชอบ คือรักลูกคิดปลูกฝัง ให้ลูกตั้งตนฝึกรักศึกษา ให้ลูกได้ดีมีปัญญา มีวิชาตั้งตนให้ลูกเป็นคนดี บุตรธิดาก็ต้องรับผิดชอบด้วยการศึกษาเล่าเรียน หาเหตุหาผล ว่านอนสอนง่ายฯ

พ่อแม่มีลูกหลายคน ย่อมจะห่วงลูกที่ยังไม่มีหลักฐาน ไม่มีงานทำ ไม่มีวิชาการ ยังไม่มีคู่ครอง ลูกที่แหลกเหลว ต้องห่วงเป็นกรณีพิเศษ รักลูกต้องเท่ากัน แต่ต้องแยกการเป็นห่วงลูกออกไป การทิ้งลูกที่ต้องห่วงใยเป็นสิ่งไม่ถูกต้องฯ

เรือนต้องมีครัว หัวต้องมีผม ผู้หญิงต้องมีนม ขนมต้องมีไส้ ไข่ต้องมีมัน ดันให้มันถึงที่ ทำความดีให้มันถึงขั้น พ่อแม่ที่ดี ต้องทำความดีให้ลูกดู ต้องรู้จักแต่งใจลูก ตั้งแต่ยังเล็กฯ

พ่อแม่ช่วยลูกได้ ลูกช่วยพ่อแม่ได้ด้วยกรรมฐานฯ

ลูกติดยา ผัวมีเมียน้อย แม่/เมียนั่งกรรมฐาน แก้ได้แน่นอนฯ

แม่นั้นสำคัญมาก แม่ต้องรักษาลูกไว้ แม่ที่ดีต้องเป็นแม่แบบ แม่แผน แม่แปลน แม่บันได แม่บ้าน แม่เรือน อยู่ตรงนี้ ลูกจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับแม่เป็นหลักให้ลูก ไม่ใช่พ่อ ถึงพ่อจะดีแสนดี แต่แม่ฉุยแฉกแตกราน สุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จักเก็บงำให้ดี ไม่เป็นแบบที่ดีของลูก รับรองเจ๊งแน่ฯ

แม่บ้านดี ลูกดีหมด แม่บ้านดี ผัวเป็นอะไรก็ได้ เป็นนายพลได้เป็นเจ้าเมืองได้ เป็นอาเสี่ยได้ฯ

ผัวขี้เหล้าเมายาไม่เป็นไร ถ้าภรรยาดีซักคน ลูกดีแน่..ผัวกินเหล้าเจ้าชู้ อย่าไปสนใจ เราจะไปตามผัวคนชั่วมาทำไม ดูแลลูกให้ดี สวดมนต์ทำกรรมฐาน แผ่เมตตาให้เขามีความสุข เดี๋ยวผัวดีคนเดิมก็กลับมา (ผู้หญิงคนหนึ่งมีลูก ๕ คน ดูแลลูกคนเดียว สามีไม่เคยมาเหลียวแลเลยตลอด ๑๖ ปี ดิ้นรนหาเลี้ยงลูก จากลูกจ้าง ไต่เต้าจนขึ้นมาเป็นผู้จัดการอยู่อังกฤษ ลูกดีหมด... อีกรายหนึ่ง แม่ความรู้ ป.๔ สวดมนต์แผ่เมตตาทุกวัน ทำกรรมฐานเป็นประจำ ตัวเองค้าขายร่ำรวยดี ทำอะไรก็ได้มรรค ได้ผล ลูกสาว ๔ คน ประสบความสำเร็จ ทั้งการศึกษาและหน้าที่การงาน)ฯ

ขอทานสองคนสามีภรรยา ได้เงินมาจะทำบุญส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งซื้ออาหารเลี้ยงลูก ประพฤติปฏิบัติเช่นนี้เป็นประจำ หลวงพ่อติดตามผลมานานปี จนขอทานสองคนผัวเมียตายไปแล้ว ต่อมาลูกหลานก็ร่ำรวย เป็นเศรษฐีมั่งมีศรีสุขอยู่กรุงเทพก็มี มีเงินเป็นร้อยล้านอยู่ที่สหรัฐอเมริกาก็มี ท่านเลี้ยงลูก ขอให้มีอัธยาศัยตั้งแต่เด็ก ๆ โตขึ้นว่านอนสอนง่ายหมดทุกคนเลยนะฯ

อย่าให้ลูกอยู่ว่าง อย่าให้ห่างผู้ใหญ่ นกอยู่ในกรงให้รีบสอน ออกไปแล้วจะตามไปสอนอย่างไรฯ

หนูอย่าอยู่ว่าง อย่าห่างผู้ใหญ่ หนูจะหลงทางได้ง่าย ฯ (ปรึกษาพ่อแม่ ผู้ใหญ่)

จะมีเขยมีสะใภ้ ขอให้เลือกคนดี อย่าไปเอาลูกเศรษฐี คนดีมีปัญญา อยู่ที่ไหนก็เจริญฯ

เอาละหนู หนูไปฝึกจิตสูงเมื่อใด หนูจะได้สามีจิตสูง ถ้าหนูจิตต่ำเมื่อใด หนูจะได้สามีเป็นคนใจต่ำฯ

ถ้าลูกสาวเรามีดี ๖๐ % ได้ผัวเลวอย่างไรก็ดีหมด ถ้าลูกสาวเรามีดี ๔๐ % ได้ผัวดีอย่างไรก็เสียหมด ดังนั้นไม่ต้องไปหาหมอดู วันได้เตือนถึงแต่งกันเลยอย่างนั้นหรือ วันเดือนปีเกิด บอกให้เรารู้ว่าอายุเท่าไหร่ฯ

การมีครอบครัวต้องมีให้ยาก ดูแล้วดูอีก ต่างคนต่างมา มีเวรกรรมผูกพันกันมา ชาตินี้จึงต้องมาเจอกันฯ

เราเป็นพ่อเป็นแม่ มีลูกก็อาศัยได้เพียงชั่วคราว แต่บางครั้งก็ไม่ช่วย ลูกประเภทนี้มีมากมาย จะไปพึ่งลูกที่ไหนเล่า แลเหลียวก็เปลี่ยวกาย เขาก็แยกไปมีครอบครัวของเขา จะมาช่วยเราอย่างไรเล่า .. ลูกชายมีเมียแม่เมียก็เป็นแม่ตัวไป ลูกสาวมีผัว พ่อผัวก็เป็นพ่อตัวไป เราก็เป็นแม่เลี้ยง นึกเสียว่าเลี้ยงลูกเอาบุญ ให้เขาเป็นหลักเป็นฐานเท่านี้ก็พอแล้วอย่าเลี้ยงลูกเอาคุณ จะเสียใจภายหลังฯ

ท่านทั้งหลาย พ่อเปรียบเป็นรั้วบ้าน ให้ความแน่นหนา ไม่ให้ใครมารังแกลูกได้ แม่เปรียบเป็นอาคาร มั่นคงในจิตใจ ลูกทุกคนเป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับบ้านฯ

พาลูกเข้าวัดตอนเป็นหนุ่มเป็นสาว จะมองเห็นพระเป็นตุ๊กตา ต้องพามาตั้งแต่เด็ก ๆ จะได้เรียบร้อยฯ

ลูกนำพ่อแม่มาเข้าวัด เป็นอภิชาตบุตร พ่อแม่ไม่มีทาน ให้พ่อแม่บำเพ็ญทาน พ่อแม่ไม่มีศีล ให้พ่อแม่บำเพ็ญศีล พ่อแม่ไม่มีภาวนาให้พ่อแม่สวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติธรรมฯ

พี่น้องต้องรักใคร่ปรองดองกันไว้ พี่รักน้อง น้องรักพี่ สร้างความดีให้พ่อแม่ พี่ชายคนโตเปรียบเหมือนพ่อ พี่สาวคนโตเปรียบเหมือนแม่อย่าทะเลาะกัน บ้านไหนทะเลาะกัน บ้านนั้นอัปมงคลฯ

กัน อยู่ที่ แม่ แก้ อยู่ที่ พ่อ

ก่อ อยู่ที่ ลูก ปลูก อยู่ที่ ครู

ความรู้ อยู่ที่ ศิษย์ เป็นมิตรกันฯ

รัก วัว ต้อง ผูก รัก ลูก ต้อง ตี

รัก มี ต้อง ค้า รัก หน้า ต้อง คิด

รัก มิตร ต้อง เตือนกันฯ

ลูกปฏิบัติกรรมฐาน อุทิศให้พ่อแม่ พ่อแม่จะอายุยืน... อารมณ์ดีอย่าโมโห อย่าด่า อย่าฆ่าสัตว์ อย่าโกรธ อย่าอิจฉา อย่าริษยา จะทำให้อายุยืน ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพดี... คนบาป คนโมโห อายุ ๖๐ จะขาดสติ จะขี้หลงขี้ลืมฯ

ถ้าจะขึ้นบ้านใหม่ ให้ขึ้นวันพฤหัสบดี ซื้อผ้าใหม่ให้พ่อแม่สวมใส่ไม่มีพ่อไม่มีแม่ ก็ไปเชิญปู่ ย่า ตา ยาย ก็ได้ แล้วเชิญท่านมานั่งบนผ้าขาวที่เราปูเตรียมไว้ให้นั่ง ตัวเราก็ไหว้พระสวดมนต์ เสร็จแล้วเราก็กราบท่าน ขอพรจากท่าน จำไว้ พ่อแม่ให้พรกับลูกรับรองรวยทุกคนแล้วให้ท่านเจิมบ้านให้ ไม่จำเป็นต้องไปนิมนต์พระมาทำพิธีเสมอไปฯ

ลูกต้องการอะไร ? เด็กต้องการอะไร ?... พ่อแม่ที่เคารพโปรดทราบ

•  ลูกต้องการความรัก โปรดให้ความรักความอบอุ่นกับลูก อย่าทิ้งลูก พ่อแม่รักลูกเท่ากัน แต่ห่วงใยลูกไม่เท่ากัน

•  ลูกต้องการความรู้ ทำไมลูกต้องซน ค้นโน่นค้นนี่ จับโน่นแตก น่าจะเข้าใจลูกว่า ลูกต้องการความรู้ อยากจะรู้ โปรดเมตตากับลูกสอนลูกดี ๆ พูดให้เพราะ ๆ อย่าตีลูก ถ้าถ้วยแตกซื้อใหม่ได้ แต่อยากเจริญพรถามว่า ลูกแตกไปซื้อได้ที่ไหน

•  ลูกต้องการอิสรเสรีไม่ชอบบังคับ เด็กมันต้องดุกดิก เด็กนั่งเฉย ๆ ไม่ได้ อย่าบังคับลูกเกินไปฯ

รักลูกให้เหมือนปลูกต้นโพธิ์

เมื่อใหญ่เมื่อโตจะได้อาศัย

ถึงคราวเจ็บจะได้ฝากไข้

ถึงคราวตายจะได้ฝากผี

เวลาดีเอาไว้ใช้สอยบ้างประไรมี

รักลูกเหมือนปลูกต้นตาล

โตไปจะไม่มีหลักฐานฯ

เลี้ยงลูกให้โต ปลูกต้นโพธิ์ให้ได้ร่ม ให้โตด้วยวิชาการ ให้มีหลักฐาน มีงานทำ มีคู่ครองขอให้เป็นทองแผ่นเดียวกัน อย่าให้โตด้วยข้าวสุก หาความสนุกในสังคมฯ

ถ้าเป็นเด็ก ขี้เกียจ ขี้โกหก ขี้ขโมย ต้องตี

ถ้าเป็นผู้ใหญ่ ขี้เหล้า เล่นการพนัน ต้องห่างไกลฯ

มาถึงตอนนี้ขอฝากญาติโยมเลยนะ ถ้ามีลูกสาวกับลูกชายนี้ โยมจะเอาใจใส่ใครมาก โยมจงเอาใจใส่ลูกสาว ให้เชี่ยวชาญชำนาญกว่าลูกชาย เพราะถ้าไม่มีวิชาความรู้นี่ ไม่เชี่ยวชาญเคหะศาสตร์ ไม่เข้าใจแม่บ้านการเรือน ไปได้สามี เขาก็จะแผลงฤทธิ์เอาฯ

อย่าสอนลูกขณะกำลังทานข้าว อย่าสอนลูกขณะกำลังอ่านหนังสือ ทำการบ้าน อย่าสอนลูกขณะลูกกำลังจะนอน จงสอนลูกหลังจากลูกสวดมนต์ไหว้พระเสร็จฯ

คนโบราณสอนไว้ว่า พ่อแม่ตักเตือนต้องนิ่ง ต้องดุษณีภาพ ต้องรับฟัง ต้องยอมรับด้วยความจำนน และเหตุผลในตน คนโบราณได้สร้างความดีให้กับลูก สร้างความถูกให้กับหลาน ลงทุนสร้างความดี อดทนต่อความลำบากได้ทุกประการ ผิดกับคนในสมัยนี้ สร้างความชั่วไว้ในใจกินสบาย นอนสบาย นอนตื่นสาย หน่ายหากิน หมิ่นเงินน้อย นั่งคอยวาสนาให้มาหาเอง ไม่เหมือนคนโบราณ ที่เขาต้องวิ่งไปหาวาสนาคือ ทำมือสอง เท้าสอง สมองหนึ่ง เป็นที่พึ่งฯ

อย่าเถียงพ่อแม่ ไม่เถียงครูบาอาจารย์ ไม่เถียงผู้ใหญ่ ต้องดุษณีภาพ นิ่งไว้ด้วยความเคารพ ถึงท่านจะผิดถูกประการใด ท่านเป็นรัตตัญญูรู้กาลเวลากว่าเรา บอกว่าเราเป็นเด็กเกิดมาภายหลัง เราว่า ท่านพูดไม่ถูกสำหรับเรา แต่ ถูกสำหรับท่านนะ พ่อแม่เกิดมาก่อน อย่าเถียงนะ เป็นบาปฯ

คุณหนู หมั่นจด หมั่นจำ หมั่นจำ หมั่นจด สิ่งใดงาม อย่าได้งดคุณหนู หมั่นจด หมั่นจำ เรียนให้รู้ ดูให้จำ ทำให้จริงฯ

เมื่อหลวงพ่อบวชได้หนึ่งพรรษาและคิดจะสึก มีความรู้สึกง่วงเหงาหาวนอน และได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นว่า “ ..นะโมยังไม่ได้ ได้นะโมแล้วค่อยสึก.. ” อาตมาก็มาแปลได้ในตอนหลัง อ้อเพลงนะโมแปลให้เด็กฟังง่าย ๆ ก็แปลว่า อ่อนน้อม ถ่อมตน ปากก็หวาน ตัวก็อ่อน มือก็อ่อน นอบน้อมกตัญญู เชิดชูระเบียบ เพียบด้วยวินัย ตั้งใจศึกษานำมาพ้นทุกข์ เป็นสุขอนันต์ เป็นหลักฐานสำคัญฯ

สามรู้ สามดี ห้ามีปัญญา เอาไปสอนลูกหลาน

•  รู้ ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม

•  รู้ อะไรก็ไม่สู้รู้วิชา

•  รู้ รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

•  ดี ที่เป็นที่ปรารถนาของทุกคน

•  ดี ที่เป็นที่สนใจของทุกคน

•  ดี ที่ละชั่วได้

(ท่านมาสร้างบุญ ต้องละบาป มาสร้างความดี ต้องละความชั่ว จึงจะเป็นที่ปรารถนาของทุกคน เป็นที่สนใจของทุกคน เรียกว่าความดี)

•  ภูมิรู้

•  ภูมิธรรม

•  ภูมิฐาน

•  ภูมิปัญญา

•  ภูมิปัจจุบัน

(อดีตอย่ารื้อฟื้น เรื่องของคนอื่นอย่าคิด กิจที่ชอบทำให้เสร็จ อย่าเดี๋ยว นี่ภูมิปัจจุบัน)

บอกลูกหลานไว้ด้วยว่าอยากมีปัญญาดีมั๊ย ขัดส้วม รับรองปัญญาดีทุกคน ไม่ใช่เรื่องโกหก อาตมาไปซื้อบานประตูหน้าต่างจากกำแพงเพชร ไปเจอเด็กคนหนึ่ง เจ้าของร้านบอกหลวงพ่อว่า หลานคนนี้หัวไม่เอาไหนเลย สอบตกอยู่เรื่อย อยากจะเรียนหนังสือ เก่งทำอย่างไรจะมีปัญญา หลวงพ่อก็บอกให้มาบวชเณรที่นี่ (ปัจจุบันที่วัดไม่รับบวชเณร) พอบวชแล้วบอกเณรขัดส้วม ขัดไปขัดมาก็รักความสะอาด อยู่มาได้หน่อยสึกแล้วไปเรียนหนังสือต่อ เรียนไปเรียนมากลายเป็นผู้พิพากษา ไปสอบได้ที่หนึ่งเลย นี่ขัดส้วมฯ

นานมาแล้วคนเป็นขี้ทูดแต่ไม่รู้มาก่อน มาบวชที่วัดอัมพวัน อยู่ต่อมาก็มีอาการกำเริบจึงขอให้หลวงพ่อช่วย และปรารภว่าสึกออกไปแล้วอยากได้เมียสวย หลวงพ่อแนะนำดังนี้

•  สวดพาหุงมหากาฯ

•  ทำกรรมฐาน

•  ขัดส้วมวัด

สองสามเดือนผ่านไป ขี้ทูดหาย เล็บงอกเป็นปกติ หน้าตาเกลี้ยงเกลา ลาสึกไปเรียนจนจบรามคำแหง ต่อปริญญาโทจุฬา และพบภรรยาลูกสาวเจ้าของเหมือง (สวย รวย ตามที่ขอกับหลวงพ่อไว้ ปัจจุบันเป็นรองศาสตราจารย์ไปอยู่อเมริกาฯ)

พระพุทธเจ้าสอนว่า “ คนเราจะรักกัน ต้องกินข้าวหม้อเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน จึงจะรักกัน ” พ่อไปทาง แม่ไปทาง พ่อแม่ สร้างปมด้อยไว้กับลูกฯ

ขอฝากข้อคิดไว้สอนลูกหลาน บ้านใด อยากจน จะมีขี้ ๓ อย่าง คือ

•  ขี้เมา

•  ขี้เล่น

•  ขี้เกียจ

ถ้าอยากรวยเป็นเศรษฐี เอาขี้สามกองทิ้งให้หมด ข้อสำคัญ รวยเงินทองเป็นเศรษฐีแล้ว ขอให้เป็นคนรวยน้ำใจด้วย จะเป็นที่ชื่นชมรักใคร่ของทุกคนฯ

ถ้าไปเรียนต่อต่างประเทศ หลวงพ่อขอฝากไว้

•  ให้พักอยู่คนเดียว ไม่เช่นนั้นจะชวนกันเที่ยว ดูหนังสือก็ดูคนเดียว จะได้ไม่คุยกัน

•  สวดมนต์ เพื่อให้มีสมาธิ

•  ปฏิบัติกรรมฐานเพื่อให้มีสติ คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ไว้ จะมีกำลังใจ แล้วหลวงพ่อจะแผ่เมตตาช่วย ขอให้ปฏิบัติตาม รับรองจบทุกคนฯ

เสียงแม่กับเสียงพ่อ เหมือนระฆัง ที่สอนเรามา เสียงอะไรจะไพเราะเท่าเสียงพ่อแม่ไม่มีแล้ว เสียงอะไรเล่า จะเสียงดังเท่าระฆังเสียงแม่ที่สอนลูกรัก ให้ดี ให้มีปัญญา ให้ลูกมีวิชาความรู้ฯ

สนองพระเดชพระคุณบิดามารดาไม่ยาก สร้างความดีให้มากได้ไหม อย่าให้พ่อแม่ผิดหวังฯ