ข้อปฏิบัติเพื่อความมีอายุยืน

๑. ตั้งใจปรนนิบัติดูแลบิดามารดา ด้วยความกตัญญูกตเวที

๒. หมั่นสร้างกุศลปล่อยสัตว์ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

๓. ไม่ทำอาชีพเลี้ยงสัตว์ไว้เพื่อฆ่าขายเนื้อ

๔. ไม่ค้าขายเครื่องมือ อุปกรณ์ดักจับสัตว์ ยา หรือสารเคมีที่ใช้ฆ่าสัตว์

๕. หาทางตักเตือน ห้ามปราม ผู้ที่ประกอบอาชีพฆ่าสัตว์ จับสัตว์ขาย เพื่อจะได้เปลี่ยนอาชีพ

๖. พยายามพิมพ์หนังสือธรรมะเกี่ยวกับกฎแห่งกรรม เพื่อยับยั้งไม่ให้คนฆ่าสัตว์ หรือจับสัตว์ขาย

๗. ผู้ที่มีหน้าที่รักษาดูแลคนเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องมีความรอบคอบระมัดระวัง ไม่ปฏิบัติงานอย่างสะเพร่า จนเป็นเหตุให้คนไข้ต้องตาย

๘.ไม่ทำและไม่ขายยาปลอม ตลอดจนไม่คดโกงจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องช่วยชีวิตที่ด้วยคุณภาพ

๙. หลีกเลี่ยงการกระทำอันเป็นเหตุให้ผู้อื่นต้องตาย เช่น โกงกินวัสดุก่อสร้าง ทำให้อาคารบ้านเรือนพังลงมาทับคนตาย เปิดไฟเพื่อดักแมลงให้ตาย เป็นต้น

๑๐. อบรมห้ามปรามลูกหลานมิให้จับสัตว์มาขังเพื่อความสนุกคะนอง หรือเห็นเป็นเกมกีฬา เพราะไม่เพียงแต่จะบั่นทอนชีวิตสัตว์ซ้ำจะเป็นการปลูกฝังสัญชาตญาณความเหี้ยมโหดอำมหิต จนกลายเป็นคนฆ่าได้โดยง่ายเมื่อโตขึ้น

 

อนึ่งการทำบุญสร้างกุศล พึงจำไว้ว่าปัจจัยเงินทอง หรือสิ่งของที่บริจาคจะต้องได้มาอย่างบริสุทธิ์ ถูกต้อง ไม่เป็นเงินที่ได้มาโดยการประกอบอาชีพต้องห้าม ดังนี้

•  ค้าขายมนุษย์

•  ค้าขายสัตว์มีชีวิต เพื่อให้นำไปฆ่าเป็นอาหาร

•  ค้าขายอาวุธ เครื่องมือฆ่าประหัตประหาร

•  ค้าขายยาพิษ

•  ค้าขายยาเสพติด ของมึนเมาอันทำลายสติและชีวิต

“ มิจฉาวณิชชา ” การค้าขาย ๕ อย่างนี้ พระพุทธองค์ทรงบัญญัติมิให้อุบาสก อุบาสิกา กระทำโดยเด็ดขาด

และในการทำทานเลี้ยงอาหาร จงอย่าได้ฆ่าเป็ด ไก่ วัว ควาย ปู ปลา ฯลฯ มาทำอาหารเลี้ยง หรือทำบุญ เพราะไม่เพียงแต่ตัวเองจะไม่สามารถต่ออายุขัยให้ยืนยาว กลับกลายเป็นยิ่งจัดเลี้ยงอายุยิ่งสั้นลง ๆ

ฉะนั้น ในพระธรรมคำสอนจึงย้ำอยู่เสมอว่าการทำบุญวันเกิด ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการร้านค้า การทำบุญอุทิศให้วิญญาณบรรพบุรุษ ตลอดจนการทำพิธีบวงสรวง และงานมงคลต่าง ๆ ต้องไม่กระทำการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต จึงจะประสบความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ครอบครัว และผู้คนที่มาร่วมงาน