คำถามจากงานบรรยาย “ ทางพ้นทุกข์ ”

1. อยากทราบว่ามีสวรรค์หรือพรหมชั้นไหนใหมครับที่สามารถปฏิบัติธรรมหรือฟังธรรมขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วเข้าถึงซึ่งพระนิพพานโลกุตระ (แล้วจะปฏิบัติอย่างไรจึงจะถึงสวรรค์หรือพรหมชั้นนั้น) เพราะรู้อยู่แล้วว่าชาตินี้ปฏิบัติไม่ถึงพระนิพพาน(ไม่อยากมาเกิดอีกแล้ว)

คำตอบ
   สวรรค์ทั้ง 6 ชั้นมีเทวดาที่เป็นอริยบุคคลอยู่ทุกชั้น ส่วนเทวดาที่เป็นปุถุชน สามารถฟังธรรมแล้วโยนิโสมนสิการจนเป็นอริยบุคคลได้ แล้วยังสามารถปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระนิพพานได้ พรหมสุทธาวาสทั้ง 5 ชั้น เป็นอริยบุคคลระดับอนาคามีสามารถปฏิบัติธรรมจนบรรลุอรหัตผลเข้านิพพานได้โดยไม่ต้องเวียนกลับลงไปเกิดในภพภูมิที่ต่ำกว่า

ถามว่าปฏิบัติอย่างไรจึงจะเข้าสู่ความเป็นสมาชิกของชาวฟ้าชาวสวรรค์หากเป็นมนุษย์ต้องพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีศีล มีการบริจาคทานอยู่เนืองนิตย์มีหิริโอตตัปปะ และปฏิบัติจิตตภาวนาอยู่เสมอ และหากมนุษย์ปรารถนาเข้าสู่ความเป็นพรหมในชั้นสุทธาวาสต้องเจริญพละธรรม 5 ประการให้กล้าแข็งจนกระทั่งจิตสามารถละสักกายทิฏฐิละวิจิกิจฉา ละสีลัพพตปรามารถ ละกามราคะและละปฏิฆะ (ความขัดใจ) ได้ในขณะยังมีชีวิตอยู่ เมื่อตายลงจิตหลุดจากร่างจะไปโอปปาติกะเป็นพรหมในชั้นสุทธาวาสทันที ตอบราวกับว่าเคยไปเที่ยวไปเห็นมาก่อนนั่นแหละ

2. อยากทราบเทคนิคการเลือกแฟนหรือคู่ครอง

คำตอบ
   เทคนิคการเลือกคนมาเป็นคู่ครองมี 2 มุมมอง หากเป็นชายควรเลือกหญิงที่มีไอคิวไม่สูงนักแต่มีอีคิว เอ็มคิว เอสคิวสูงนั่นแหละดี และหากหญิงผู้ชายผู้มีศีล มีสัจจะ มีธรรมะ มีปัญญาใกล้เคียงที่เรียกว่า “ คู่สร้างคู่สม ”

   หากเป็นผู้หญิงควรเลือกชายที่มีไอคิวสูง อีคิวสูง เอ็มคิวสูง เอสคิวสูงและมีศีล มีศรัทธา มีจาคะ มีปัญญาใกล้เคียงกับตนได้แล้วจะเป็นผู้มีโชคดีที่สุด ในยุคสมัยนี้หากหญิงตั้งใจ ในการเลือกคู่ครองได้ดังนี้โอกาสขึ้นคานมีเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

3 . ต้องสร้างเหตุปัจจัยใดจึงจะเกิดมาพบพระพุทธศาสนาในทุกภพทุกชาติและเจริญรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนา

คำตอบ
   อยากเกิดมาพบและมีความรุ่งเรืองในพุทธศาสนาทุกภพชาติต้องสร้างมหาทาน แล้วอธิษฐานตามที่ปรารถนาแล้วต้องรักษาศีล 5 ให้มีอยู่ในใจแล้วต้องสร้างเหตุให้ตรง เช่นสร้างถาวรวัตถุไว้ในพุทธศาสนา และปฏิบัติตามบุญกิริยาวัตถุ 10 เรื่อย ๆ ไปตลอดชีวิต แล้วสิ่งปรารถนาก็จะสัมฤทธิ์ผล

4. เรียนถามท่านอาจารย์เรื่องถ้าศีลด่างพร้อยแล้วอย่าหวังว่าจะบรรลุธรรมขั้นสูงเลย ขอความกรุณาท่านอาจารย์อธิบายให้เข้าใจด้วยค่ะ

คำตอบ
   คำว่าศีลอย่างพร้อย เช่นรับเอาศีล 5 ข้อ มาปฏิบัติแล้วทำการวาจาให้มีศีล แต่ใจยังทุศีลเช่น ยังคิดพยาม ยังคิดอยากลักขโมย ฯลฯ อย่างนี้เรียกว่ามีศีลด่างพร้อย หรือรับศีล 5 ข้อมาปฏิบัติแล้วแต่บางวันบางเวลาปฏิบัติได้ไม่ครบ 5 ข้อ อย่างนี้เรียกว่าศีลด่างพร้อย ฯลฯ บุคคลที่มีศีลด่างพร้อย ปฏิบัติธรรมไม่บังเกิดมรรคผล จิตเข้าไม่ถึงความตั้งมั่น (สมาธิ)เข้าไม่ถึงปัญญาเห็นแจ้ง ธรรมขั้นสูงคือ ธรรมที่นำไปสู่ความเป็นอริยบุคคลขั้นต้น(โสดาบัน) ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้

5. พ่อมักบอกสอนเสมอว่าให้ดูตัวเองและแก้ไขตัวเองไม่ใช่คนอื่น แต่มักมีคนอื่น ๆ มากพอสมควรชอบถามในเรื่องการปฏิบัติและปัญหาที่เกิดขึ้น มักมีคนมาถามเรื่องกรรม หนูไม่อยากตอบเลยเพราะนึกถึงคำสอนของอาจารย์พ่อแต่ก็ตอบแบบออกตัวก่อนว่าปัญญาหนูมีคำตอบได้แค่นี้อาจผิดก็ได้ หนูควรทำอย่างไร

คำตอบ
   ในการเจริญจิตตภาวนา จุดประสงค์คือ ต้องการให้จิตมีความตั้งมั่นเป็นสมาธิแล้วเกิดปัญญาเห็นแจ้ง แล้วเอาตัวสติและปัญญาเห็นแจ้งมาส่องดูใจตนเอง เพื่อขจัดสิ่งเศร้าหมอง (กิเลส)ให้หมดไปจากใจ และทำแต่สิ่งดีงาม(ธรรม) ให้เกิดมีขึ้นในใจ นั่นคือตรวจสอบตัวเองดูตัวเอง

   ที่มีคนอื่นชอบถามปัญหา ก็เพราะเขาต้องการ ทราบวิธีแก้ปัญหาจากผู้มีประสบการณ์มาก่อนไง หากคุณสามารถปรับปรุงแก้ไขตนเองได้แล้วควรมีเมตตาสงเคราะห์ ผู้ที่ยังด้อยประสบการณ์กว่า ด้วยการให้คำปรึกษา คำเสนอแนะ ให้เขาแก้ปัญหาของเขาได้ ด้วยเหตุนี้แหละพระพุทธะเมื่อแก้ปัญหาของชีวิต (พ้นทุกข์) ได้แล้ว จึงได้นำความรู้นั้นมาบอกกล่าวแก่เวไนยบุคคลไงล่ะ อาจารย์ของผู้ตอบปัญหาคือ เจ้าคุณโชดก ก็ทำอย่างที่พระพุทธเจ้าทำ ผู้ที่กำลังตอบปัญหาอยู่นี้ก็ทำอย่างที่เจ้าคุณโชดกทำ ผู้ที่รู้วิธีแก้ปัญหาให้กับตัวเองได้แล้ว ผู้ที่พ้นทุกข์ได้แล้วแต่ไม่นำความรู้หรือประสบการณ์ที่ตนเองมีไปบอกผู้อื่น โลกสมมุตเรื่องผู้นั้นว่า “ ปัจเจกพุทธะ ” ไงเล่า อย่าไปปรามาสท่านนะว่าเห็นแก้ตัว มันเป็นการหาบาปใส่ตัวนะโยม เดี๋ยวจะว่ารู้แล้วทำไมไม่บอก ส่วนคุณจะทำอย่างไร เลือกเองนะ เพราะชีวิตเป็นของคุณมิใช่หรือ

6. อาชีพการขายประกันชีวิตเป็นอาชีพที่ผิดศีลธรรมมีคนเคยบอกหนูว่าอาชีพนี้เอาเปรียบผู้อื่น

คำตอบ
   อาชีพขายประกัน ถ้าประพฤติอยู่บนพื้นฐานของศีลธรรมแล้วปฏิบัติให้ตรงกันสัจจะที่ให้ไว้กับผู้เอาประกัน ก็ไม่ถือว่าผิดศีลธรรมถ้าไม่ตรงตามนี้ ไม่ควรทำ เพราะนรกยังมีที่ว่างอีกมาก พอที่จะบรรจุคุณอยู่

7.น้ำมูตคูตคืออะไร

คำตอบ
   คำว่า “ น้ำมูตคูต ” ไม่มี แต่มีคำว่า “ น้ำมูตรคูถ ” หมายถึงน้ำที่เกิดจากการขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระ คือน้ำเยี่ยวน้ำขี้ที่ชาวบ้านเรียกกันนั่นแหละ อย่าคิดมากเดี๋ยวจิตตกเป็นทาสของอัตตาแล้วจะว่าไม่บอก

8. มีบางสำนักที่ส่งเสริมให้กินน้ำปัสสาวะบอกว่าน้ำปัสสาวะคือน้ำมูตคูคตามที่พระพุทธเจ้าบอกจริงหรือเปล่า

คำตอบ
   ถามไปว่า บางสำนักที่ส่งเสริมให้กินน้ำปัสสาวะ ตามที่พระพุทธเจ้าบอกจริงหรือเปล่า ผู้ตอบปัญหาไม่เคยได้ยินว่าสำนักไหนที่ส่งเสริมให้ทำเช่นนั้น จึงตอบไม่ได้และที่ถามว่า ตามที่พระพุทธเจ้าบอก ผู้ตอบปัญหาก็ไม่เคยได้ยินจึงตอบไม่ได้เช่นเดียวกัน รู้แต่เพียงว่า เมื่อหมู่สงฆ์ชาวแคว้นวัชชีทะเลาะกันและไม่ยอมฟังโอวาทของพระศาสดา ท่านจึงธุดงค์องค์เดียวไปอยู่ป่า “ รักขิตวัน ” (ปาริเลยยกะ) และมีช้างปาริเลยยกะเป็นผู้อุปัฏฐากเตรียมน้ำใช้น้ำฉันมาไว้สำหรับพระศาสดา และเช่นเดียวกันตอนใกล้จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ท่านได้เสด็จไปยังกุสินารา ในระหว่างเดินทางท่านรู้สึกเหนื่อยมาก และกระหายน้ำ จึงให้พระอานนท์ไปตักน้ำใสในแม่น้ำกถุธานทีมาให้ดื่ม พระศาสดาตรัสอย่างไรทรงทำอย่างนั้น ท่านคงไม่ฉันน้ำปัสสาวะหรอกนะ

9.ยาดองที่เค้าขายใส่ในโหล ที่กินแล้วเมานั่นใช่หรือไม่

คำตอบ
   ถ้าดื่มแล้วเมา ต้องเป็นยาที่หมักดองด้วยแอลกอฮอล์ ถ้าหมักดองด้วยน้ำมูตรคูถ ดื่มแล้วต้องไม่เมาเพราะไม่ใช่แอลกอฮอล์

10.ช่วยยกตัวอย่างให้ด้วยค่ะว่ายาดองน้ำมูตคูตเช่นอะไรบ้าง

คำตอบ
   ตัวอย่างได้แก่ ผลสมอป่าดองในน้ำปัสสาวะ เถาบอระเพ็ดดองในน้ำปัสสาวะฯลฯ

11.พัฒนากาย , พัฒนาจิต มีเครื่องชี้วัดอย่างไรช่วยอธิบายหรือยกตัวอย่าง

คำตอบ
   ถ้าพัฒนากายได้สำเร็จ ร่างกายต้องสมบูรณ์ขึ้น แข็งแรงขึ้น มีสุขภาพทางร่างกายดีขึ้น และถ้าพัฒนาจิตได้สำเร็จ จิตต้องมีสติเพิ่มขึ้น จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิมากขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น จิตมีความเป็นอิสระต่อโลกธรรมและวัตถุ ฯลฯ นี่แหละเครื่องชี้วัดผลที่เกิดจากการพัฒนากายและการพัฒนาจิต

12.ยุงตาย 1 ครั้งนับเป็นชาติได้หรือไม่ และการเกิดเป็นยุงถือว่ามีวิญญาณครบส่วนหรือไม่

คำตอบ
   คำว่า ชาติ มีความหมายหลายอย่าง และแปลว่าการเกิดก็ได้ ส่วนการตายเรียกว่า จุติ มักจะใช้กับการตายของเทวดา ฉะนั้นยุงที่ตายแล้วไปเกิดใหม่ 1 ครั้ง เรียกว่า 1 ชาติได้ เมื่อใดที่เกิดเป็นสัตว์มีรูปนาม ก็มีจิตวิญญาณครบทุกครั้งที่รูปนามปรากฏ

13.เราจะรู้ได้อย่างไรว่าโรคนี้เป็นอยู่ (เกี่ยวกับเส้นประสาท) เป็นโรคกรรมหรือไม่ใช่

คำตอบ
   คำว่า “ กรรม ” มีความหมายว่า “ กระทำ ” การกระทำที่ส่งผลถึงความผิดปรกติของการทำหน้าที่ขอระบบประสาท เรียกว่าโรคกรรมได้

14.เปิดร้านขายอาหารต้องใช้เนื้อสัตว์จึงสั่งจากร้านประจำเป็นบาปผิดศีลข้อ 1หรือไม่

คำตอบ
   สั่งให้เขาส่งเนื้อสัตว์เพื่อให้ปรุงเป็นอาหารขายให้กับผู้บริโภค ถ้าร้านที่ขายเนื้อสัตว์ ไปส่งโรงฆ่าสัตว์ให้ฆ่าเพิ่มตามจำนวนที่คุณต้องการ คุณก็ผิดศีลข้อ 1 หากร้านที่ส่งเนื้อสัตว์ไปหาซื้อจากตลาดโดยไม่มีการสั่งซื้อล่วงหน้าแล้วนำมาส่งให้คุณ อย่างนี้ไม่ผิดศีลข้อ 1

15.ขอเรียนถามอาจารย์เกี่ยวกับที่คนอื่นเค้าใช้กระดาษฉาบทองแล้วพับเป็นเงินจีนไหว้เจ้าบูชาพระได้ประโยชน์ พระเจ้าได้เอาไปใช้หรือเก็บไว้ให้ผู้ไหว้หรือเปล่า (หมายถึงสะสมบุญ) อีกเรื่องเกี่ยวกับการทำพิธีกงเต็กหรือตรุษศาสตร์เอาเสื้อผ้ากระดาษเงินกระดาษอันหรือกระดาษฉาบทองพับไหว้ ของที่ทำเลียนแบบของจริงเช่น บ้านรถยนต์ของใช้ทุกอย่างทำแล้วเอามาเผาส่งในงานกงเต็ก ผู้ตายจะได้รับจริงไหม

คำตอบ
   ถ้าบุญสำเร็จได้ด้วยการเผาส่งไปให้ผู้ตายได้จริง มนุษย์ไม่จำเป็นต้องเหนื่อยหนักกับการทำบุญ (ดูบุญกิริยาวัตถุ 10) หรอก รอให้ญาติมิตรเผาส่งไปให้จะมิดีกว่าหรือ หรือเผาด้วยตัวเองก่อนตายให้บุญไปรออยู่ข้างหน้าจะมีดีกว่าหรือ พระพุทธะตรัสว่าอย่าปลงใจเชื่อด้วยเหตุ 10 อย่าง(กาลามสูตร) ก็เนื่องด้วยเหตุที่คนที่มีความเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) คิดทำสิ่งที่สูญเปล่าเป็นโมฆะอย่างนี้นั่นแหละ ผลสัมฤทธิ์จึงไม่เกิดขึ้นได้ดังใจปรารถนา

16.ได้นั่งสมาธิแล้วรู้สึกจิตจะรวมลงตัวหายบ่อย ไม่เจ็บปวดขันธ์ในการนั่งหลังจากนั้น ไม่พิจารณากายบ่อย ๆ จิตไม่รวมเหมือนเก่าคะ แต่ใจยังอยากเหมือนเดิมค่ะ ควรแก้ไขไหมค่ะ

คำตอบ
   อยากให้จิตรวมตัว คือให้จิตมีความตั้งมั่นเป็นสมาธิต้องกำหนดให้ความอยากหมดไปได้ก่อน โดยบริกรรมคำว่า อยากหนอ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าความอยากหมดไป แล้วนำจิตกลับมาสู่องค์บริกรรมเดิมที่ทำมาก่อน จึงจะแก้ปัญหาที่ถามไม่ได้

17.มีบ้าน 3 ชั้น พระบูชาเดิมอยู่ชั้น 3 พออายุเยอะแล้วขึ้นไม่ไหวจะย้ายพระมาอยู่ชั้นล่างได้ไหมค่ะ มีลูกป่วยมาปีนี้ครบ 12 ปี จะมีโอกาสหายขาดได้ไหมคะ ป่วยด้วยโรคจิตเภท ต้องทานยาก่อนนอน 2 เม็ด ปัจจุบันสามารถใช้ชีวิตปกติแต่ไม่สามารถเรียนหรือ ทำงานอยู่กับบ้านช่วยงานบ้านได้ ไม่มีความเชื่อมั่นและความจำไม่ดี อาจารย์จะเมตตาช่วยให้หายโดยไม่ต้องทานยาได้ไหมคะ ลูกคนนี้ก่อนป่วยเรียนดีและกตัญญูรักแม่ เป็นเด็กดีไม่เคยทำบาปเป็นลูกชายปัจจุบันอายุ 31 เกิดปี 2518 วันที่ 13 กันยายน เวลาเกิด 9.38 น.

คำตอบ
   ประสงค์จะย้ายพระบูชาจากชั้นที่ 3 ลงมาอยู่ชั้นล่างมีทางให้เลือกดังนี้ ถ้าบ้านชั้นล่างมีห้องหน้ามุขให้ย้ายพระบูชาไปอยู่ห้องหน้ามุข ถ้าไม่มีห้องหน้ามุขและมีความเป็นไปได้ ให้ก่อสร้างต่อเติมห้องมุขยื่นออกไปจากตัวบ้าน หรือหากไม่มีทางเลือก ก็ย้ายพระบูชามาอยู่ชั้นล่างแต่ก่อนนอนทุกคืน ผู้ที่อาศัยอยู่สูงกว่าพระควรสวดมนต์แล้วขอขมาพระรัตนตรัยและบุพการีแล้วจึงขึ้นนอนสูงกว่าได้ ทำอย่างที่บอกได้ก็จะดีกว่าไม่ทำ

เรื่องคนป่วยก็หนีไม่พ้นคำว่าสัตว์โลกเป็นไปตามกรรมหมดรักษามายาวนานถึง 12 ปี ยังรักษาไม่หาย แล้วผู้ตอบปัญหาจะช่วยได้อย่างไร พระพุทธะในขณะมีชีวิตยังต้องชดใช้กรรม พระมหาโมคคัลลานะยังต้องชดใช้กรรม พระองคุลีมาลยังต้องชดใช้กรรม ไม่มีใครเก่งเกินกรรมหรอกครับ ชดใช้ไปเถอะครับเวรกรรมจะได้หมดไป เพียงแต่ว่าปัจจุบันสร้างบุพกุศลไว้มาก ๆ (บุญกิริยาวัตถุ 10) อนาคตดีแน่นอน

18. ผู้ที่ป่วยเป็นหลอดเลือดสมองตีบ เกิดจากรรมใด และมีวิธีแก้กรรมได้หรือไม่อย่างไรคะ

คำตอบ
   สัตว์โลกที่ยังต้องเวียนตาย-เกิด อยู่ในวัฏสงสารไม่สามารถหนีพ้นกรรมได้ แม้แต่พระศาสดา และพระอรหันต์สาวกครั้งที่มีชีวิตอยู่ยังต้องชดใช้กรรม ไม่มีใครสักคนแก้กรรมได้ เมื่อมีการเกิดย่อมมีการแก่ชรา มีเจ็บป่วยและตายลงในที่สุด รักษาใจไว้ไม่ดีกว่าหรือครับสั่งสมบุญไว้ในใจ จะได้ใช้เป็นทรัพย์ภายใน นำไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดีจะมิดีกว่าหรือ

19.การพักอาคารบนตึกสูงหลาย ๆ ชั้น หากเราอยู่ชั้นที่สูงกว่าผู้มีคุณธรรมเราจะบาปหรือไม่ครับและเราควรทำอย่างไร (ที่พักที่ทำงานในกรุงเทพมักเป็นตึกสูงหลายชั้น)

คำตอบ
   ก่อนตอบคำถามขอเล่าให้ฟังว่า ในครั้งพุทธกาลขณะที่พระพุทธะยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีอริยสาวกองค์ใด พักอาศัยอยู่ในที่สูงกว่าพระศาสดาเพราะจะเป็นบาป ด้วยเหตุนี้กฎของพระพุทธเจ้า จึงถูกสร้างขึ้นบนจุดสูงสุดของยอดเขาคิชฌกูยังไงล่ะ

หากผู้ถามปัญหามีความจำเป็นต้องพักอาศัยอยู่สูงกว่าผู้มีคุณธรรมยังสูง ก่อนขึ้นนอนชั้นบนทุกคืนควรไปกราบขอขมาผู้มีคุณธรรมสูงให้ท่านยกโทษให้ ก็จะเป็นมงคลแก่ผู้กระทำเอง ทำดีกว่าไม่ทำ เป็นการปลดโทษพร้อมกับสร้างคุณธรรมขึ้นในใจของผู้ขอขมาด้วย

20.ถ้าลูกพูดธรรมะให้แก่แม่พ่อฟังควรพูดอย่างไร จึงจะสมควร ไม่เป็นบาป(หากลูกได้เคยฟังธรรมะมาและอยากยกข้อความนั้นมาให้ท่านได้ฟังบ้าง) เช่นอาจกล่าวว่าผมเคยอ่านเคยฟังธรรมะจากครูบาอาจารย์มาอยากเล่าให้แม่พ่อฟังครับพูดอย่างนี้สมควรหรือไม่ครับ

คำตอบ
   ถ้าพ่อแม่มีความศรัทธา และขอให้ลูกช่วยเล่าธรรมะให้ฟัง ลูกก็สามารถเล่าธรรมะที่ได้ยินได้ฟังมาก่อนให้ท่านฟังได้

ยกตัวอย่าง เรื่องจริงในปัจจุบัน มีอยู่ครอบครัวหนึ่งพ่อแม่ศรัทธาในธรรมของพระพุทธเจ้า จึงได้ส่งลูกชายไปบวชเป็นพระและนำตัวเข้าปฏิบัติธรรมจนมีธรรมะซึมซับอยู่ในใจ พ่อแม่เกิดปีติที่ลูกชายเข้าถึงธรรมได้ และภายหลังลูกชายได้ลาสิขาบทออกมาเป็นฆราวาสและยังได้นำพ่อแม่ทำวัตรเย็นก่อนนอน น่าชื่นใจไหมล่ะที่ได้ลูกเป็นคนดี ลูกจึงสอนพ่อแม่ได้ สาธุ ๆ ๆ

21.พระในประเทศไทยมี 2 นิกายอยากจะเรียนถามท่านอาจารย์ดร.สนองว่า ผู้แยกนิกายถือว่าทำสังฆเภทหรือไม่ครับ ส่วนพระภิกษุที่แยกนิกายถือว่าเป็นสังฆาทิเสสหรือไม่ครับ พระธรรมยุตถือว่าเป็นฝ่ายแยกนิกายหรือไม่ครับ ญาติโยมที่สนับสนุนบำรุงพระฝ่ายแยกนิกายถือว่ามีส่วนร่วมในการแยกสงฆ์หรือไม่ครับ จะมีทางรวมคณะสงฆ์ในไทยหรือไม่ครับ ในฐานะฆราวาส เราควรปฏิบัติต่อพระภิกษุสงฆ์นิกายทั้งสองอย่างไรครับ

คำตอบ
   คำว่า สังฆเภท หมายถึง การทำสงฆ์ให้แตกกันที่ถามไปว่าประเทศไทยมีสงฆ์ 2 ฝ่าย (นิกาย) ผู้แยกนิกายถือว่าทำสังฆเภทหรือไม่ เรื่องนี้อยู่ที่มุมมองของคน คนที่มองแต่เปลือก ติดในสมมติบัญญัติก็ถือว่าเป็นสังฆเภท แต่คนที่เข้าถึงธรรมของพระพุทธะแล้วไม่ถือว่าเป็นสังฆเภท ผู้ถามประสงค์ให้ผู้ตอบปัญหาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้ตอบปัญหาของตอบจากประสบการณ์ตรงที่เห็นมากับตาตนเองว่า ได้เคยเห็นสงฆ์ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเข้าถึงธรรมของพระพุทธะได้ทำสังฆกรรมร่วมกัน โดยไม่เห็นมีความแตกแยกตรงไหน จริงอยู่วิธีการปฏิบัติของแต่ละนิกายมีข้อปฏิบัติที่ไม่เหมือนกัน แต่เมื่อเขาถึงธรรมแล้วเป็นธรรมเดียวกัน จึงอยู่อาศัยในวัดเดียวกันได้ และยังมีปฏิสัมพันธ์อันดีต่อกันด้วย

   อนึ่งความเห็นที่จะรวมสงฆ์ 2 นิกายให้มาเป็นหนึ่งเดียวนั้น ก็เป็นเรื่องของคนที่มีความเห็นอย่างนั้น พระพุทธะสอนให้ดูตัวเอง สอนให้แก้ปัญหาที่ตัวเองซึ่งถ้าเชื่อแล้วทำตาม ก็สามารถแก้ความเห็นผิดจากธรรมเช่นนั้นได้ ผู้ตอบปัญหาจึงไม่มีความคิดที่จะไปแก้ไขสิ่งอื่นที่อยู่นอกตัวหรอกครับ

   ในฐานะฆราวาสควรปฏิบัติต่อสงฆ์ 2 ฝ่ายอย่างไร เรื่องนี้ไม่ยากสงฆ์ไม่ว่านิกายใด หากเป็นสงฆ์ที่ประพฤติตรงตามธรรมวินัย นั่นเป็นสงฆ์ที่ฆราวาสควรนำตัวเข้าใกล้ พูดคุยไต่ถาม ควรแก่การเคารพกราบไหว้ ฯลฯแล้วสิ่งดีงามจะซึมซับเข้าสู่ใจของฆราวาสได้เอง

22.เคยทำให้คนอื่นอกหักมามาก มีวิธีแก้กรรมตรงนี้ไหมค่ะ

คำตอบ
   วิธีแก้กรรมไม่มี พระพุทธะและอรหันต์ที่ยังมีชีวิตยังแก้กรรมของตัวเองไม่ได้ แต่หนีกรรมด้วยการทำความดีให้สุด ๆ และหากจะหนีกรรมให้พ้นต้องทำจิตตภาวนา จนบรรลุอรหัตผลและหากเมื่อใดทิ้งรูปนามได้ ไม่มีรูปนามปรากฏขึ้นอีกในวัฏสงสาร เมื่อนั้นแหละกรรมไม่สามารถตามไปให้ผลไดจริงแท้แน่นอน

23.โลกุตระจิตมีอารมณ์เป็นนิพพานเป็นอย่างไร และวิธีการทำให้เป็นโลกุตระจิต

คำตอบ
   ใจของผู้ตอบปัญหายังเข้าไม่ถึงอารมณ์นิพพานจึงตอบข้อนี้ไม่ได้ต้องขอภัย

24.ตอนมีสติรู้ว่าโลภ , โกรธเกิดขึ้น ขณะเท่ากับแยกรูปกับนามแล้วใช่หรือไม่

คำตอบ
   ไม่ใช่ครับผม

25.ถ้าอยากไปฟังธรรม ปฏิบัติธรรม แต่ต้องดูแลญาติพ่อแม่ยายที่สูงอายุจะทำอย่างไรดี

คำตอบ
   มีปัญหาเรื่องญาติจึงไม่สามารถไปฟังธรรมได้ ก็เห็นว่าไม่จำเป็นต้องไปฟังธรรมที่ไหนให้ไกล ให้ต้องห่วงผู้อยู่หลัง เอาอย่างนี้สิคุณเอาธรรมะมาฟังที่บ้าน พ่อ แม่ ยาย และสัตว์กายทิพย์ที่อยู่รอบบ้านจะได้มีโอกาสฟังธรรมด้วย

26.ผู้สำเร็จโสดาบันแล้ว ความรุนแรงของทุกข์ทางใจ ความลำบากในการประกอบอาชีพเลี้ยงกายยังมากเหมือนปุถุชนหรือไม่

คำตอบ
   ไม่น่าถาม โสดาบันเป็นอริยบุคคลมีใจเป็นอิสระจากความมีตัวตน (ละสักกายทิฏฐิได้) ปราศจากความลังเลสงสัยในพระรัตนตรัยในการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ช่วย ฯลฯ คือละวิจิกิจฉาได้ และมีศีลคุมใจอยู่ทุกขณะตื่น ไม่ลูบคลำศีล คือละสัพพตปรามาสได้ซึ่งทั้ง 3 อย่างของกิเลสนั้นยังมีอยู่พร้อมในใจของปุถุชน แล้วจะให้เหมือนกันได้อย่างไรล่ะ

27.อาจารย์สนองบอกว่านิพพานคือดับนี้รูปและนามกล่าวคือ จิตดับไปด้วย ไม่ต้องไปเกิดในสังสารวัฏอีก ข้อมูลนี้อาจารย์ได้มากจากที่ใด พระไตรปิกฎหรือจากอาจารย์ ฉบับใด หมวดใด

คำตอบ
   ไม่ได้มาจากที่ใดหรอก ได้จากประสบการณ์ตรงของตัวเอง ว่ารูปนี้ดับมานับจำนวนไม่ถ้วน แต่จิตไม่เคยดับจิตออกไปแสวงหาร่างใหม่เข้าอยู่อาศัยอย่างไม่รู้จบ บวกกับลีลาที่พระพุทธะแสดงให้ดูตอนเสด็จดับขันธปรินิพพาน และพระอนุรุทธิ์ท่านตามดู พบว่าขณะพระศาสดาเข้าสู่ปรินิพพาน ท่านนำจิตเข้าสู่ฌาน 1 ออกจากฌาน 1 เข้าสู่ฌาน 2 ออกจากฌาน 2 เข้าสู่ฌาน 3 ออกจากฌาน 3 เข้าสู่ฌาน 4 ออกจากฌาน 4 เข้าสู่อรูปฌาน 1 ออกจากอรูปฌาน 3 เข้าสู่อรูปฌาน 4 ออกจากอรูปฌาน 4 เข้าสู่สัญญาเวทยิตนิโรธ ออกจากสัญญาเวทยิตนิโรธแล้วถอยจิตย้อนกลับตามลำดับจนลงถึงฌานที่ 1 อีกครั้ง ออกจากฌาน 1 เข้าสู่ฌาน 2 ออกจากฌาน 2 เข้าสู่ฌาน 3 ออกจากฌาน 3 เข้าสู่ฌาน 4 ออกจากฌาน 4 แล้วรูปดับพร้อมกับการดับของนาม ที่เรียกว่าดับขันธ์คือรูปขันธ์ดับพร้อมกับนามขันธ์ดับนั่นแหละ ผู้ตอบปัญหาเชื่อคำพูดของพระอนุรุทธิ์ องค์อรหันต์ผู้มีเอตะทัคคะทางด้านตาทิพย์นะครับ ประกอบกับครรลองแห่งธรรมที่เจ้าคุณโชดกบอกให้นำพาชีวิตเดินตามครรลองนี้ ผู้ตอบปัญหาได้พิสูจน์สัจธรรมขององค์พุทธะ และได้เข้าถึงธรรม จึงได้มีปัญญาเห็นตามที่พระอนุรุทธิ์เห็นและเห็นตามที่เจ้าคุณโชดกชี้นำทางนั่นแหละครับ คนอื่นไม่จำเป็นต้องเชื่อตามนี้ แต่ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองนะครับ จะได้ไม่ถูกหลอกให้เชื่อไงล่ะ

28.บุตรของข้าพเจ้า ทั้งบุตรสาวและบุตรชายติดเกมส์อินเตอร์เน็ตมาก ถามว่าควรจะห้ามปรามอย่างไร เล่นเกือบตลอดทั้งวัน คุณแม่ก็พยายามหมั่นสวดมนต์ไหว้พระให้แล้ว จนใจจริง ๆ

คำตอบ
   แก้ปัญหาเด็กติดเกมส์อินเตอร์เน็ต ให้แก่ที่ตัวพ่อแม่ก่อน คือพ่อแม่ต้องสร้างจรรยาบรรณให้กับตัวเอง แล้วปฏิบัติให้เป็นไปตามจรรยาบรรณนั้น คือ ทำตัวพ่อแม่ให้เป็นผู้มีวินัยให้ลูกดูเป็นตัวอย่างได้ก่อน เมื่อมั่นใจว่าตัวเองเป็นแบบอย่างที่ดีของลูกได้แล้ว จึงค่อยสร้างจรรยาบรรณให้ลูกปฏิบัติ ตามกำหนดเวลาที่สร้างขึ้น เช่น ห้วงเวลาใดทำการบ้าน ห้วงเวลาใดเล่นกีฬาออกกกำลังกาย ห้วงเวลาใดเล่นเกมส์ห้วงเวลาใดรับประทานอาหาร ห้วงเวลาใดอาบน้ำพักผ่อน ห้วงเวลาใดไหว้พระสวดมนต์ ห้วงเวลาเข้านอน ฯลฯ พ่อแม่ต้องทำตัวเองให้มีจริยธรรมพ่อแม่ที่ดีของลูกคืออบรมดูแลให้ลูกเป็นคนดี ฯลฯ พ่อแม่ต้องมีความจริงใจ และซื่อตรงต่อจรรยาบรรณที่วางไว้ ขอโทษนะครับ คำแนะนำนี้เป็นเรื่องที่ทำได้จริง และให้ผลตรงตามเป้าหมาย ลิงป่า ช้างป่า ม้าป่า ยังเอามีฝึกมาหัดให้มีวินัยได้ นับประสาอะไรกับมนุษย์และลูกมนุษย์จะฝึกหัดไม่ได้เล่า

29. ลูกชายอายุ 19 ปี ไม่เชื่อธรรมะ ไม่เชื่อศาสนาพุทธ บอกว่าศาสนาพุทธเป็นเรื่องงมงายจะมีวิธีอย่างไรจะอธิบายให้ลูกเชื่อและสนใจธรรมะจะได้มีสติ สมาธิ ปัญญาในการเล่าเรียนศึกษา

คำตอบ
   เขาไม่เชื่อธรรมะ เขาไม่เชื่อศาสนาพุทธ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วเหมือนที่ผู้ตอบปัญหาไม่เคยเชื่อมาก่อนนั่นแหละ เหตุก็เพราะว่าปัญญาของเขาเข้าไม่ถึงความจริงที่ถูกบันทึกไว้ในพุทธศาสนา และหากเมื่อใดเขาพัฒนาปัญญาเห็นแจ้ง (ภาวนามยปัญญา) ให้เกิดขึ้นกับจิตใจของเขาได้แล้ว เขาจะเชื่อและศรัทธาในคำสอนของพระพุทธะอย่างแน่นอน อย่าว่าแต่เด็กอายุ 14 ปีที่ไม่เชื่อธรรมะที่กล่าวไว้ในพุทธศาสนา บรรดาผู้ที่เรียบจบปริญญาเอกทางโลกในศาสตร์ต่าง ๆ เกือบทั้งหมดยังไม่เชื่อเลยว่า คำสอนของพระพุทธะเป็นความจริงที่ไม่ขึ้นกับกาลเวลา ความจริงบางอย่างก็ยังไม่เข้าใจอีกด้วยถ้าอยากให้ลูกหันมาสนใจพุทธศาสนา ทำได้อย่างน้อย 2 วิธี คือ คนใกล้ตัว(พ่อแม่) ทำให้เขาดูเป็นตัวอย่างให้ได้ก่อนสิ เมื่อใดที่ธรรมะเขาสิงสถิตอยู่ในใจแล้ว พฤติกรรมและวิถีชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีสุด ๆ และปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรม หรือในอีกแนวทางหนึ่ง ต้องท้าพิสูจน์ถ้าเขายอมรับคำท้าพิสูจน์ให้นำตัวเขาไปพบกัลยาณมิตรในทางธรรมให้ช่วยพัฒนาจิตวิญญาณของเขาให้เกิดปัญญาเห็นแจ้งได้แล้ว เมื่อนั้นแหละความต้องการของพ่อแม่จะบรรลุผล

30.เคยพบเหตุการณ์ที่ไม่สามารถหาเหตุผลได้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร 2 ครั้งในชีวิต คือของวางอยู่ตรงหน้าแต่มองไม่เห็น ขอยืนยันว่าไม่เห็นจริง ๆ (และไม่ใช่ลักษณะหาของตั้งนานหาไม่เจอที่แท้วางอยู่ตรงที่ตะกี้เราหานั่นแหละ) แต่เป็นสิ่งที่ไม่ต้องหา และไม่มีการรื้อหาเพราะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งโล่ง ๆ ไม่มีอะไรวางอยู่เลย แค่มองก็ต้องเห็น แต่กลับไม่เห็นจนต้องหันไปถามคนอื่นและกลับมาดูใหม่ก็ยังไม่เห็นแต่พอเปิดลิ้นชักดูและปิดลิ้นชักกลับหันกลับมาเห็นวางอยู่บนโต๊ะตรงกลางโต๊ะนั้นเอง เพราะเป็นที่วางประจำของมันอยู่แล้วไม่ได้วางที่อื่น (เป็นหลอดยาเคาน์เตอร์เพน) ครั้งที่ 2 กระดาษขนาด 18/12 นิ้ว โล่ง ๆ ซึ่งเป็นที่วางประจำทุกวันไม่เคยวางที่อื่น พอแปรงฟังเสร็จกลับมาจะเก็บแปรงหาปลอกไม่เจอ จนต้องเดินกลับไปดูห้องน้ำไม่พบกับมาที่โต๊ะอีกครั้งก็ยังไม่เห็นจนกระทั่งเปิดลิ้นชักดู พอปิดลิ้นชักปุ๊ปหันกลับมาถึงได้มองเห็นว่าบนแผ่นรองตัดกระดาษนั่งเอง เพราะเป็นที่วางประจำของมันอยู่แล้วไมเคยวางที่อื่นยืนยันว่าไม่มีการรื้อหาอะไรเพราะไม่มีอะไรวางบนนั้น นอกจากปลอกแเปรงสีฟันอันเดียว ไม่ทราบว่าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดจากอะไร และทั้ง 2 ครั้งมีสิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ต้องเปิดลิ้นชักก่อนพอปิดลิ้นชักปุ๊ปหันกลับมาก็เจอเลยเหมือนกับเป็นการเสกของให้หายไปและเสกกับในชั่วพริบตา ถ้ามีอะไรที่เป็นเหตุผลเหนือธรรมชาติอยากทราบว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นเพื่ออะไรและเพราะอะไร ครั้งแรกเกิดขึ้นที่บ้านเวลาค่ำ ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเวลาเข้าก่อนเริ่มงาน ทั้ง 2 เกิดห่างกันประมาณ 10 ปีค่ะ

คำตอบ
   ก่อนตอบคำถามเรื่องนี้ ขอเล่าเรื่องให้ฟังว่า เมื่อหลายปีมาแล้วผู้ตอบปัญหาได้ไปร่วมขบวนกฐินจัดโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ซึ่งนำโดยคุณหญิงสุธีพันธ์ ท่านเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งได้นำขบวนกฐินไปทอดที่ภูทอก เมื่อคณะกฐินเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ มีคนหนึ่งได้โทรศัพท์ไปเรียนท่านว่าได้ลืมถุงกระดาษสีน้ำตาลภายในมีเงินเหลือจากทำบุญบรรจุอยู่ ลืมไว้ที่ศาลาธรรม (ศาสลาคอนกรีต) ที่ภูทอก โดยวางไว้ที่โดนเสาต้นหนึ่ง ในใจคิดว่าคงมีคนหยิบเอาไปใช้แล้วก็ไม่ได้ติดใจอะไร ในปีรุ่งขึ้นท่านผู้นี้ได้ไปร่วมทอดกฐินกับคุณหญิงอีก เมื่อไปถึงภูทอกที่ศาลาธรรม ณ โดนเสาต้นนั้น ถุงกระดาษสีน้ำตาลที่บรรจุเงินที่เหลือจากทำบุญ มิได้สูญหายไปไหน ยังคงวางอยู่ที่โดนเสาต้นเดิม เจ้าของเงินจึงเอาเงินในถุงทั้งหมดทำบุญที่นั่น

   เรื่องนี้เกิดขึ้นได้เพราะอะไร และเพื่ออะไร ตอบว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้เพราะเทพผู้อารักขาผู้ทรงคุณธรรมได้ทำหน้าที่ของเขา และเกิดขึ้นเพื่อรักษาสัจธรรมแห่ง “ สีเลนะ โภคะ สัมปทา ”

   ส่วนเรื่องที่คุณบอกเล่าไป เกิดได้เพราะสัตว์ที่มีรูปนามเป็นทิพย์ต้องการเล่นตลก (ให้เกิดสนเท่ห์) และเกิดขึ้นเพื่อความบันเทิงใจของเขา เมื่อรู้อย่างนี้แล้วถามว่า คุณล่ะตลกไปกับเขาไหม สนุกไปกับเขาไหม