ตอบคำถามจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 26 มิถุนายน 2550
|
1.
ชาตินี้เกิดเป็นผู้หญิง ทำอย่างไรในชาติต่อไป ถึงจะเกิดเป็นผู้ชาย หรือเปลี่ยนเพศ่ได้
คำตอบ
สามารถเปลี่ยนเพศได้ หากอธิษฐานและทำเหตุให้ถูกตรง
|
2.
ทำอย่างไรถึงจะมีสัมผัสที่ 6 คะ สัมผัสที่ 6 คืออะไรคะ
คำตอบ
สัมผัส (ผัสสะ) หมายถึงการกระทบกันระหว่าง อายตนะภายนอกและอายตนะภายใน เช่นเสียงเข้ากระทบหู ภาพเข้ากระทบตา กลิ่นเข้ากระทบจมูก ฯลฯ อายตนะภายในที่เป็นทวารรับกระทบจากอายตนะภายนอกมี 6 ช่องทางคือ ทางหู ทางตา ทางจมูก ทางลิ้น ทางผิวกาย และทางใจ
สัมผัสที่ 6 ในพจนานุกรรมไม่มี แต่หากหมายถึงสัมผัสที่เกิดจากทวารที่ 6 คือใจรับกระทบแล้วปรุงอารมณ์เป็นไปได้ หากไม่ต้องการให้เกิดสัมผัสทางใจ ต้องทำใจให้ตกภวังค์ (คือไม่มีการเกิด-ดับ) แล้วสัมผัสทางใจจะเกิดขึ้น
|
3.
ความฝันที่เห็นสถานที่เดิมหลาย ๆ ครั้ง ในเวลาที่ต่างกันจะเกี่ยวข้องกับเราอย่างไรคะ
คำตอบ
เกี่ยวข้องกันด้วยเหตุที่เป็นสัญญาเก่าที่จิตเก็บบันทึกเกี่ยวกับสถานที่ที่เคยอยู่เคยเห็น ไว้เป็นความทรงจำในจิตใต้สำนึกลึก เมื่อใดที่เหตุปัจจัยลงตัว โอกาสที่จะแสดงออกในรูปของความฝันจึงเกิดขึ้นได้
|
4.
ขอให้อาจารย์อธิบายการเกิดเป็นกระเทยว่าเป็นผลมาจากการทำกรรมอะไร ให้ละเอียด และวิธีแก้ไขให้ชีวิตนี้หรือชีวิตหน้าดีขึ้น
คำตอบ
เหตุเกิดจากการประพฤติผิดศีลข้อ 3 จะให้อธิบายโดยละเอียด ต้องขอยกตัวอย่างของภิกษุณีที่ชื่อว่า อิสิทาสี ที่สามารถระลึกรู้ถึงการเกิดในชาติหนหลัง ได้ยาวนานถึง 7 ชาติมาแสดง
อดีตชาติที่ 1 เคยเกิดเป็นชายและมีอาชีพเป็นช่างทำทอได้เป็นชู้ ทำผิดศีลข้อ 3 กับภรรยาของผู้อื่น
อดีตชาติ 2 เกิดเป็นสัตว์นรกยาวนาน
อดีตชาติ 3 พ้นวิบากกรรมในนรกแล้วไปเกิดเป็นลิงตัวผู้เกิดได้ 7 วัน ถูกลิงจ่าฝูงกัดจนลูกอัณฑะแตก
อดีตชาติ 4 เกิดเป็นแพะ ถูกเด็กเล่นขี่หลังอยู่นานถึง 12 ปี
อดีตชาติที่ 5 เกิดเป็นลูกโค พออายุได้ครบขวบปีจึงถูกตอน ถูกใช้เทียมไถให้ไถนา ถูกใช้ให้ลากเกวียนบรรทุกของหนัก พออายุย่างเข้าสู่วัยชรา ตาจึงได้บอดมองไม่เห็น
อดีตชาติที่ 6 เกิดเป็นลูกของนางทาสข้างถนน มีภาวะเป็นกระเทย มีอายุสั้น ตายเมื่ออายุได้ 30 ปี
อดีตชาติที่ 7 เกิดเป็นลูกสาวช่างทำเสื่อที่ยากจน พ่อแม่มีหนี้สิ้นล้นพ้นตัว จึงถูกพ่อค้าเกวียนยึดเอาไปเป็นตัวใช้หนี้และเมื่อโตเป็นสาวจึงได้เป็นภรรยาน้อยของลูกชายพ่อค้าเกวียนฯลฯ
วิธีแก้ไขให้มีชีวิตดีขึ้น ต้องพัฒนาจิตตนเองให้มีศีลห้าข้อคุมใจให้ได้ก่อน แล้วเจริญสมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนาจนเกิดมรรคผลขึ้นกับจิต เข้าสู่ความเป็นอริยบุคคลได้เมื่อใดชีวิตนี้และหรือชีวิตหน้าดีขึ้นแน่นอน
|
5.
อยากถามว่า คนที่เกิดมาผิดเพศเช่นเป็นทอมหรือกระเทย เป็นคนมีกรรมใช่ไหมคะ
คำตอบ
ใช่
|
6.
อยากถามว่า ถ้าเราช่วยทำบุญให้ทาน แต่ไม่ชอบเข้าวัดฟังธรรม จะเป็นอะไรค่ะ
คำตอบ
ได้บุญที่เกิดจากการให้ทาน แต่ไม่ได้บุญที่เกิดจากการฟัง
|
7.
อาจารย์บอกว่า กระแสจิตมีความเร็วสูง อยากทราบว่า การอธิษฐานจิต สามารถส่งคลื่นไปถึงคนที่อยู่ไกล ๆ ได้หรือไม่
คำตอบ
ได้ การอธิษฐานที่มีกำลังมาก มาจากใจที่มีศีลและสัจจะกำกับ
|
8.
อยากจะถามอาจารย์ เรื่องคนที่ตายแล้วฟื้นมีหลักฐานพิสูจน์ ทางวิทยาศาสตร์หรือทางการแพทย์หรือไม่
คำตอบ
การแพทย์เป็นวิทยาศาสตร์ เดิมการแพทย์ตั้งสมมติฐานเรื่องคนตายไว้ว่า เมื่อลมหายใจหยุดเข้า หยุดออกจากร่างกาย นั้นถือว่าตาย แต่มีบางรายคนที่แพทย์ลงความเห็นว่าตายแล้วจึงได้ให้ญาตินำศพไปจัดพิธีศพในวัด เกิดมีการเคาะฝาโรงศพแล้วจึงฟื้นขึ้นมาเป็นคนมีชีวิตอยู่อย่างปกติ ต่อมาการแพทย์จึงตั้งสมมติฐานใหม่ว่า หากสมองหยุดทำงานถือว่าคนผู้นั้นตายไปแล้ว เมื่อใดที่สมองตายจิตวิญญาณที่อาศัยอยู่ภายในร่างกายให้เกิดประโยชน์ต่อไปไม่ได้จึงละทิ้งร่างกาย (ตาย) แล้วออกไปแสวงหาร่างอื่นเข้าอยู่อาศัย ทางการแพทย์ปัจจุบัน จึงไม่มีการตายแล้วฟื้นกลับคืนมาได้อีก
ในศาสนาพุทธสอนวิธีพัฒนาจิตวิญญาณให้ตั้งมั่นเป็นสมาธิและให้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง แต่การทำจิตตภาวนาเพื่อให้จิตตั้งมั่นเป็นสมาธินั้น ปัจจุบันยังมีพระสงฆ์ที่ปฏิบัติจิตภาวนาจนจิตเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่านิโรธสมาบัติได้ในสภาวะเช่นน ี้ทุกระบบอวัยวะหยุดทำงาน หากใช้สมมติฐานการแพทย์ปัจจุบันมาตัดสิน ต้องถือว่าพระสงฆ์รูปนั้นได้ตายไปแล้วแต่เมื่อพระรูปนั้นออกจากนิโรธสมาบัติก็กลับมาดำเนินชีวิตเป็นปกติได้อีก ความจริงเช่นนี้วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้ เพราะวิทยาศาสตร์ปัจจุบันยังเข้าไม่ถึงความจริงสูงสุด (ปรมัตถสัจจะ) ในระดับ metaphysics ได้
ศาสนาพุทธโดยเฉพาะภาคปฏิบัติ มีการสอนวิธีพัฒนาจิตให้เข้าถึงความจริงสูงสุด จึงได้มีมุมมองในเรื่องนี้ต่างออกไปจากวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน โดยมองว่า จิตวิญญาณที่หลุดออกจากร่าง แล้วโคจรไปรู้เห็นเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ในภพอื่น แล้วโคจรกลับมาเข้าอยู่อาศัยในร่างเดิมได้ใหม่จึงถือว่ามีการตายแล้วฟื้นเกิดขึ้น
|
9.
(1) เวลาบวชทดแทนคุณบิดามารดา แล้วท่านจะได้ขึ้นสวรรค์หรือเปล่าครับ
(2) บวชกี่วันดีครับ จึงจะทดแทนคุณของแม่ได้มากที่สุด
คำตอบ
(1) ได้ เมื่อผู้บวชได้อุทิศบุญกุศลให้ แล้วท่านได้อนุโมทนา
(2) บวชกี่วันยังไม่สำคัญเท่ากับว่า เมื่อบวชแล้วผู้บวชได้ประพฤติถูกตรงตามธรรมวินัยของพระพุทธะ ถือว่าเป็นการตอบแทนคุณของท่านได้มากกว่า และหากผู้บวชได้พัฒนาจิตวิญญาณจนได้ดวงตาเห็นธรรม เข้าถึงความเป็นอริยบุคคลได้จะเป็นการตอบแทนคุณของท่านได้สูงสุด
|
10.
ไม่ได้ฆ่าสัตว์เอง แต่ไปซื้อเนื้อสัตว์ที่เขาฆ่าแล้วมาบริโภค (เนื้อวัว) จะบาปไหม
คำตอบ
ไม่บาป ถ้าจิตวิญญาณของวัวที่ไปเอาเนื้อมาปรุงเป็นอาหารรับประทาน ไม่ได้ผูกพยาบาทไว้ จากประสบการณ์ของผู้ตอบปัญหาพบว่า มีวัวบางตัวก่อนถูกนำเข้าสู่โรงฆ่าสัตว์ได้ผูกพยาบาทไว้กับผู้ที่เอาเนื้อของเขาไปบริโภคว่า ใครเอาเนื้อกูไปกิน กูจะทำร้ายมัน อย่างนี้ถือว่าบาปเกิดกับผู้ที่เอาเนื้อของเขาไปบริโภค
|
11.
ถ้าพัฒนาจิตแล้ว เข้าไม่ถึงวิปัสสนาญาณครบ 16 ญาณ จะเป็นอะไรหรือเปล่า อย่างไร
คำตอบ
ไม่เป็นอะไร เข้าถึงได้แค่ไหนยังดีกว่าเข้าไม่ถึง คือสามารถรู้เห็นเข้าใจได้เฉพาะญาณที่เข้าถึงเท่านั้น
|
12.
(1)อยากให้อาจารย์แนะนำสถานที่ปฏิบัติธรรม ฝึกกรรมฐาน หรือบอกสถานที่ที่อาจารย์ปฏิบัติ เพราะเลือกไม่ถูกว่า จะไปปฏิบัติที่ไหน แต่ละแห่งก็มีวิธีการต่าง ๆ จนรู้สึกสับสนไปหมดค่ะ
(2) คนขยันปฏิบัติธรรม ทำบุญมาก แต่ไม่ค่อยรับผิดชอบงานในหน้าที่ เทวดาจะใช้กฎแบบไหนกับเขาค่ะ เสียชีวิตไปแล้วได้ขึ้นสวรรค์ หรือลงนรกคะ
คำตอบ
(1) การปฏิบัติธรรมมีการใช้วิธีการปฏิบัติที่แตกต่างกันนั้นถูกต้องแล้ว เหตุเพราะคนมีจริตที่ไม่เหมือนกันแต่ผลที่เกิดขึ้นต้องเหมือนกันคือ เจริญสมถภาวนาแล้วผลที่เกิดขึ้นคือมีจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ เจริญวิปัสสนาภาวนาแล้วผลที่เกิดขึ้นคือจิตมีปัญญาเห็นแจ้ง มีปัญญาเห็นถูกตรงตามเป็นจริง หากได้ผลถูกตรงตามที่กล่าว วิธีการที่นำมาใช้จึงจะถูกต้อง
ส่วนเรื่องขอให้แนะนำสถานที่ปฏิบัติธรรม ให้ดูคำตอบจากเว็บไซด์ ข้อ 460 (1)
(2) เทวดาไม่มีหน้าที่มากำหนดชะตาชีวิตของคนแต่กรรมคือการกระทำเมื่อทำกรรมแล้วกรรมให้ผลเมื่อใดเขาต้องรับผลของกรรมนั้น เรื่องบอกเล่าไปเขาได้บุญที่เกิดจากการปฏิบัติธรรมได้บุญที่เกิดจาการทำบุญ ขณะเดียวกันเขาได้บาปในส่วนที่ไม่รับผิดชอบหน้าที่
ส่วนที่ว่าเขาผู้นั้นตายไปแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็อยู่ที่ว่ากรรมใดให้ผลก่อน ถ้าบุญให้ผลก่อน เมื่อตายแล้วเขาก็มีโอกาสขึ้นไปเกิดบนสวรรค์ได้ หากบาปชิงให้ผลก่อน เขาก็มีโอกาสลงไปเกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิได้ คงไม่ถึงนรก
(3) ผู้ถามคงหมายถึง เมื่อญาติตายไปแล้วไปเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้น ต้องให้ญาติทำเหตุด้วยตนเองให้ถูกตรง คือพัฒนาจิตให้มีศีลสถิตอยู่ในทุกขณะตื่น และมีการให้ทานอยู่เสมอจนตายหรือมีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดาหรือทำใจให้เป็นผู้มีหิริโอตตัปปะคือละอายการทำชั่ว เกรงกลัวต่อบาปกรรมที่จะตามให้ผล หรือปฏิบัติธรรมฯลฯ เหล่านี้เป็นเหตุนำสู่การเกิดในสวรรค์ และหากปฏิบัติสมถภาวนาจนจิตเข้าถึงความตั้งมั่นระดับฌานแล้วตายในฌานจึงจะมีโอกาสไปเกิดเป็นพรหมได้
ส่วนที่จะทำให้ญาติมีจิตเป็นกุศล ญาติต้องพัฒนาจิตตนเองให้มีปัญญาเห็นถูก (สัมมาทิฏฐิ) ด้วยการฟังผู้รู้บอกกล่าวแล้วปฏิบัติตามหรือฟังผู้รู้บอกแล้วพิจารณาโดยแยบคาย (โยนิโสมนสิการ) หรือพัฒนาจิตจนเกิดปัญญาเห็นแจ้ง เหล่านี้เป็นเหตุที่ทำให้เกิดจิตที่เป็นกุศลได้ทั้งนั้น
|
13.
หากสงฆ์หรือฆราวาส กระทำความชั่วอันจะเกิดจากเหตุจำเป็นหรือไม่จำเป็น เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับบุคคลธรรมดา ปุถุชนทั่วไปใครจะเป็นบาปมากกว่ากัน
คำตอบ
ผู้ที่มีศีลมากกว่า แล้วทำความชั่วด้วยเหตุเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่มีศีลน้อยกว่า แล้วทำชั่วด้วยเหตุเดียวกันผู้ที่มีศีลมากกว่าจะเป็นบาปมากกว่า
|
14.
ข้าพเจ้าอยากเรียนถามผู้บรรยายว่า
(1) ถ้ามนุษย์สร้างกรรมไว้มาก ๆ แต่กลับคิดได้ จะมีอะไรที่สามารถลบล้างกรรมได้หรือไม่
(2) ข้าพเจ้าอยากทราบว่า ท่านผู้บรรยายรับประทานเนื้อสัตว์หรือว่าทานอาหารเจ
(3) การที่มนุษย์ขาดความสามัคคี และเกิดการขัดแย้งกันนั้นจะมีข้อเตือนสติอะไรบ้าง ที่เขาสามารถคิดกลับตัวกลับใจกันได้โดยรวดเร็ว เช่น ความขัดแย้งในเขตชายแดนใต้ 3 จังหวัด
คำตอบ
(1) กรรมไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ แต่กรรมหมดไปด้วยการชดใช้หนี้กรรม จะเป็นการชดใช้หนี้ทางตรง หรือชดใช้หนี้ทางอ้อม ขึ้นอยู่กับผู้เป็นเจ้าหนี้จะเห็นชอบ
(2) รู้แล้วใช่ว่าจะทำให้กิเลสของผู้ถามลดลงจึงไม่ขอตอบ
(3) ข้อเตือนสติคือ เวร (ความปองร้ายกัน) ย่อมระงับได้ด้วยการไม่จองเวรตอบ เตือนแล้วเขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นเรื่องของเขา
|
15.
ทำอย่างไร เราจึงจะใช้สติได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์
คำตอบ
ต้องฝึกจิตให้ระลึกได้ทุกลมหายใจเข้า และลมหายใจออก ระลึกอยู่ขณะที่จิตมีการเกิดดับ ซึ่งผู้ตอบปัญหายังไม่สามารถทำได้ จึงไม่มีประสบการณ์ว่า พระอริยบุคคลผู้มีสภาวะของจิตเป็นสอาทิเสสนิพพานทำได้หรือไม่
|
16.
(1) ท่านอาจารย์เคยตายแล้วฟื้นไหมคะ ตายแล้วไปเจออะไร
(2) คนที่ทำสมาธิจนเข้าฌานได้ แล้วจะไปไหน
(3) อาจารย์ทราบหรือไม่ว่า ท่านอาจารย์จะหมดอายุขัยเมื่อไร รู้ได้ล่วงหน้าหรือเปล่า
คำตอบ
(1) หากให้คำจำกัดความว่า ตายแล้วฟื้น หมายถึงการที่จิตออกจากร่าง แล้วโคจรไปรู้เห็นข้าใจสิ่งต่าง ๆ ในมิติอื่นในภพอื่น แล้วจิตโคจรกลับเข้าสู่ร่างเดิมได้อีก ก็ต้องตอบว่าเคยไปพบเห็นมักกะลีผลในป่าหิมพานต์ เคยไปพบเห็นพูดคุยกับมนุษย์ในดาวดวงอื่น
(2) ตอนที่จิตยังอยู่ในภาวะทรงฌาน จิตยังอยู่กับร่างกาย ไม่ได้ออกไปไหน
(3) ไม่รู้ เมื่อถึงเวลาที่เหตุปัจจัยลงตัวก็น่าจะรู้ดังตัวอย่างของพระสารีบุตรรู้วันตายได้ล่วงหน้า 7 วัน ภิกษุณีมหาปชาบดี รู้ว่าเหตุปัจจัยที่จะทำให้มีชีวิตอยู่จะจบสิ้นลงในวันนี้แล้วจึงได้ไปทูลลาพระศาสดาเพื่อเข้านิพพาน
|
17.
คนมีเมียน้อย ตกนรกชั้นไหน
คำตอบ
ถ้าเป็นปุถุชนทุศีลข้อ 2 ตายแล้วมีโอกาสไปเกิดเป็นสัตว์นรกขั้นสิมพลีนรก แต่หากเลิกแล้วพัฒนาจิตจนมีศีล 5 คุมใจได้ทุกขณะตื่นแล้วตายมีศีล 5 อยู่ครบ ตายแล้วมีโอกาสกลับมาเกิดเป็นมนุษย์หรือหากพัฒนาจิต จนหลุดเป็นอิสระจากสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาได้ ตายแล้วไม่ต้องลงไปเกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ
|