กอดกันวันละนิด ชีวิตสดใส เรื่องโดย เสาวลักษณ์ ศรีสุวรรณ

A hug is an amazing thing it's just the perfect way to show the love we're feeling but can't find the words to say

….. Jill Wolf

“อ้อมกอดเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เป็นวิธีที่วิเศษสุดในการแสดงออกถึงความรัก โดยไม่ต้องหาคำใดมาเอื้อนเอ่ย”

นับวันคำพูดเหล่านี้จะได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง การกอด นอกจากจะไม่เสียค่าใช้จ่ายๆ ใดแล้ว ยังทำได้แสนง่าย และในบางครั้งการกอดยังสามารถช่วยชีวิตคนไข้ได้อีกด้วย

เรื่องมีอยู่ว่า มีคุณแม่คนหนึ่งให้กำเนิดทารกแฝด เมื่อแรกคลอดทารกมีสุขภาพไม่สมบูรณ์เท่าใดนัก คุณหมอจึงให้อยู่ในตู้อบคนละตู้ คนหนึ่งนั้นอยู่ในภาวะที่อ่อนแอมากจนทุกคนคิดว่าคงไม่รอดแล้ว แต่ด้วยความสงสาร พยาบาลได้ฝ่าฝืนกฎระเบียบด้วยการนำทารกคนนี้ไปนอนใกล้ๆ ฝาแฝดอีกคนในตู้อบ เมื่ออยู่ในตู้อบเดียวกัน ทั้งคู่ใช้แขนกอดกัน จากนั้นไม่นานเรื่องอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เมื่อทารกแฝดที่ร่างกายไม่แข็งแรง กลับมีพัฒนาการดีขึ้น ทั้งระบบการหายใจและอุณหภูมิในร่างกาย จนเข้าสู้ภาวะปกติในเวลาต่อมา

นอกจากกรณีนี้แล้ว ในบทความของโรงพยาบาลจิตเวช ขอนแก่นราชนครินทร์ ก็ยังได้กล่าวถึงการกอดเอาไว้ว่า

การกอดมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค ผ่อนคลายความเครียด ลดความกดดัน และทำให้นอนหลับสนิท ช่วยให้คนเรามีชีวิตชีวา กระปรี้ประเปร่า และไม่มีผลข้างเคียวอันไม่พึงประสงค์ ดังนั้นการกอดคือยาวิเศษดีๆ นี่เอง

การกอดเป็นผลผลิตของธรรมชาติ ได้จากสิ่งมีชีวิต ไม่ต้องผสมเทียม ไม่ก่อมลพิษ ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม และมีประโยชน์เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

การกอดเป็นของขวัญชิ้นเยี่ยม ไม่ต้องใช้ถ่านให้สิ้นเปลือง ไม่ยืด ไม่หด ไม่มีไขมัน ไม่ต้องผ่อนชำระ ใครก็ขโมยไม่ได้ และไม่ต้องเสียภาษี

การกอดใช้ทรัพยากรน้อย แต่มีอำนาจมหัศจรรย์ เพียงเราเปิดใจและอ้อมแขนเท่านั้น

ฟังดูแล้วการกอดทำได้ง่ายและมีประโยชน์มากมาย แต่เรามักไม่ค่อยนึกถึงกัน คุณชัด ยุงสันเทียะ พยาบาลวิชาชีพ สถาบันราชานุกูล กล่าวว่า

“บางคนอาจไม่เคยได้ยินว่าการกอดเป็นการบำบัดวิธีหนึ่ง แต่ทุกคนคงทราบว่าการกอดเป็นการสัมผัสที่ให้ความรู้สึกดีๆ แต่ในทางทฤษฏีนั้นการสัมผัสไม่เพียงแค่ดี แต่เป็นเรื่องจำเป็น มีการวิจัยที่สนับสนุนทฤษฎีนี้ว่า การถูกกระตุ้นโดยการสัมผัสเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสรีระร่างกาย ช่วยทำให้ร่างกายและจิตใจเกิดภาวะสมดุล”

Dolores Krieger,R.N.,Ph.D. ศาสตราจารย์ทางการพยาบาลที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ผู้เชี่ยวชาญสาขาการบำบัดด้วยการสัมผัสก็ได้กล่าวสนับสนุนแนวคิดนี้ว่า การกอดจะทำให้มีการกระตุ้นการทำงานของเฮโมโกลบิน ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อต่างๆ เป็นไปอย่างทั่วถึง ช่วยให้เกิดความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา

งานวิจัยในผู้ป่วยสูงอายุ (อายุ70 ปีขึ้นไป) พบว่า การกอดทำให้ผู้สูงอายุมีภาวะสุขภาพดีขึ้น มีความกระตือรือร้น มีความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป และมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่างๆ มากขึ้นนอกจากนี้ การสัมผัสยังช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ซึมเศร้า และความวิตกกังวลให้ผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี

ล่าสุดสถาบันวิจัยการสัมผัส คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยไมอามี่ สหรัฐอเมริกา พบว่า พลังของการสัมผัสมีอิทธิพลต่อกระบวนการบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยของเด็ก ผลการวิจัยนี้พบว่าคุณประโยชน์ของการบำบัดด้วยการสัมผัสมีผลต่อการรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคหืด ผิวหนังอักเสบ และความเครียดจากอาการบาดเจ็บต่างๆ รวมทั้งสามารถใช้ได้ผลกับเด็กทารกที่ได้รับเชื้อเอชไอวี ทารกคลอดก่อนกำหนดจากแม่ที่ติดยาเสพติด และทารกผิดปกติ โดยจะให้ประโยชน์ด้านจิตใจ และให้ผลที่วัดได้ทางการแพทย์

ว่าแล้ว เราลองมากอดกันหน่อยดีไหม ลูกกอดพ่อแม่ สามีกอดภรรยา หลานๆ กอดปู่ย่าตายาย ความรักความอบอุ่นและความสุขใจจะได้กระจายไปทั่วทุกหนแห่ง

 

พลังของการกอด

•  ทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ

•  ช่วยคลายความเหงา

•  ช่วยให้เอาชนะความกลัว

•  เป็นประตูไปสู่ความรู้สึกด้านบวก

•  ช่วยลดน้ำหนัก เพราะความอยากอาหารจะลดลง เนื่องจากได้รับการเติมเต็มในเรื่องของจิตใจ

•  ช่วยเพิ่มความมั่นใจ

•  ช่วยชะลอความแก่

Tip กอดอย่างไรจึงจะให้อารมณ์ความรู้สึก

เริ่มใจมองหน้ากันและกันแล้วอ้าแขนโอบกอดอย่างเต็มที่ ถ่ายทอดความรู้สึกที่ดีๆ จากใจ เพื่อให้อีกฝ่ายสัมผัสถึงสิ่งที่คุณต้องการมอบให้ โดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไรทั้งสิ้น

นพ.ซิดนีย์ ไซมอน, มหาวิทยาลัยแมสซาซูเซตส์

   

    ครั้งที่แม่ตบลงไปบนหน้าลูกอาจก่อให้เกิดความสั่นสะเทือนลึกลงไปสุดใจของลูก ทั้งชีวิต หนึ่งอ้อมกอดที่แม่บรรจงหยิบยื่นให้ลูกอาจก่อให้เกิดความพันผูกข้ามกาลเวลา ทุกๆปฏิสมัพนธ์เป็นได้ทั้งบาดแผลและดอกไม้สำหรับลูก ... ว.วชิรเมธี

 

 

 


 

 

คลิกดูสาระธรรมทั้งหมด