คำถาม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ 28 สิงหาคม 2548
1. ได้เคยฟังผู้บรรยายฆราวาสหญิง ชอบยกตนข่มท่าน ทำนองว่า ผู้ฟังโง่ ชอบกล่าวโทษผู้อื่นแม้แต่พระที่ผู้คนเคารพทั้งเมืองไทย เมืองนอก จะทำอย่างไรกับหญิงผู้นี้ดีคะ
ตอบ
ไม่ต้องทำอย่างไรกับท่านผู้นี้ สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม ปล่อยให้เขาไปตามกรรมของเขา ถ้ารู้ว่าเขาทำกรรมไม่ดี แล้วเรานำตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วม ด้วยการเห็นดีด้วยหรือไม่เห็นดีด้วย เท่ากับว่าเรามีส่วนร่วมในอกุศลกรรมของเขา มีอานิสงส์เป้ฯอกุศลวิบากให้เราต้องได้รับในวันข้างหน้า ผู้ฉลาดไม่แก้ปัญหาที่คนอื่น แต่แก้ปัญหาที่ตัวเอง
2. มีอุบายหรือวิธีอย่างไรบ้างเพื่อให้เรารักษาศีล 5 ได้
ตอบ
ภิกษุศีลขาด ต้องแสดงความผิดเพื่อเปลื้องโทษทางวินัย ที่เรียกว่า ปลงอาบัติกับพระที่มีอายุพรรษามากกว่า
ฆราวาสชาวคริสต์ ประพฤติทุศีล ต้องสารภาพบาปกับพระคริสต์ แล้วต้องไม่ทำความผิดเดิมซ้ำอีก
ฆราวาสชาวพุทธ เมื่อสมาทานศีลมาจากพระสงฆ์ คือรับเอามาปฏิบัติแล้ว หากจะรักษาศีล 5 ให้คงอยู่ ต้องรักษาสัจจะไว้ให้ได้ ถ้ารักษาสัจจะไม่ได้จะทำให้ศีล 5 ที่รับมาจากพระสงฆ์มีไม่ครบ ต้องสารภาพความผิดต่อพระรัตนตรัยหรือต่อบุคคลผู้มีศีลมีธรรม หรือต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตัวเองนับถือ แล้วต้องไม่ทำผิดซ้ำอีก
3. บอกเพื่อน ๆ บอกว่าเรามาทางสายเอก (วิปัสสนา) พัฒนาจิตใจการรู้เรียนคน ดูคน ดูจิตออก เพื่อน ๆ บอกบ้าและทำให้เรากลายเป็นคนไม่น่ารัก ท่านคิดเห็นอย่างไร
ตอบ
เห็นอย่างที่เพื่อนคุณบอกนั่นแหละ การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง ถูกตรงตามเป็นจริง เพื่อเอาปัญญานี้มาส่องดูใจตนเอง ปรับปรุงแก้ไขใจตนเอง ไม่ได้เอาไปเรียนรู้คนอื่น ดูคนอื่น แก้ไขคนอื่น
4. การปฏิบัติตนเพื่อเข้าสู่พระนิพพาน ควรปฏิบัติอย่างไรครับ การคิดไม่ปรารถนาภพภูมิต่าง ๆ นอกจากพระนิพพาน จะเข้าสู่พระนิพพานหรือไม่ครับ
ตอบ
ทำใจให้ตั้งมั่นเป็นสมาธิ แล้วเอาพลังสมาธิไปพิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรมได้ตามกฏไตรลักษณ์ เมื่อใดจิตเห็นถูก ปล่อยวาง กาย เวทนา จิตและธรรมได้ โอกาสเข้าสู่นิพพานเป็นไปได้
5. ปัจจุบัน มีความเชื่อเรื่องการตั้งชื่อตัวเลข จากการได้อ่านคำทำนาย ตามตัวเลขที่ชื่อตกตามตัวเลขดีมีส่วนเป็นความจริงหลายเรื่องท่านมีความคิดเห็นอย่างไร แล้วจะใช้หลักคิดอย่างไร เพื่อจะมั่นใจไม่เปลี่ยนชื่อตัวตามความเชื่อนั้น หลักคิดตามคำสอนของพระพุทธมีไหมคะ
ตอบ
มีความเห็นว่าเป็นความงมงายของชาวโลก ที่เวียนตายเกิดอยู่ในวัฏฏสงสาร พระพุทธะสอนให้อยู่กับสมมุติได้ ใช้สมมุติให้เกิดประโยชน์ ได้ประโยชน์จากสมมุติ แต่ต้องไม่ตกเป็นทาสของสมมุติ สอนถึงตัวเลขที่ชาวโลกสมมุติกันขึ้น ใจที่ไม่เป็นทาสของสมมุติ เป็นใจที่วิมุตติ นั่นเป็นเป้าหมายสูงสุดของผู้ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
6. การละสักกายทิฏฐิ การมีความมั่นคงในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสีลพตปรามาส ข้อใดที่ปฏิบัติได้ยากที่สุดครับ
ตอบ
ข้อที่ปฏิบัติได้ยากที่สุด คือการละสักกายทิฏฐิเพราะ ต้องพัฒนาจิตใจให้มีสติเข้มข้นและมีใจที่เข้าถึงความเห็นแจ้ง(วิปัสสนาญาณ) ปัญญาเห็นแจ้งจะเห็นว่า รูปร่างกายนี้ แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นตัวของเรา ความป่วยไข้ของร่างกายไม่มี ความเจ็บปวดที่แข้งที่ขา (ทุกขเวทนา) ไม่มี เพราะไม่ใช่แข้งขาของเราเป็นต้น เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วแสดงว่าเห็นถูกตรงตามความเป็นจริง จึงละสักกายทิฏฐิได้
ส่วนเรื่องความมั่นคงในพระรัตนตรัย และเรื่องสีลพตปรามาส เป็นเรื่องของการใช้ศรัทธา ซึ่งปฏิบัติได้ง่ายกว่า
7. อยากทราบถึงสิ่งที่ ดร.สนอง ได้รับสัมผัสอภินิหารจิตระหว่างบวช 30 วัน ท่านมีความรู้สึกอย่างไร และได้เปลี่ยนความคิดทางโลกโน้มไปทางธรรมอย่างไร
ตอบ
อภินิหารที่เกิดขึ้นกับจิตระหว่างบวชรู้สึกเฉยๆ เหตูที่เปลี่ยนความคิดทางโลกแล้วโน้มมาทางธรรม มี 2 สาเหตุคือ เกิดปัญญาเห็นแจ้งขึ้นในจิตและเกิดอภิญญา(ปุพเพนิวาสานุสติญาณ) เห็นภพชาติหนหลัง ของตนเอง ว่าที่เวียนตายเกิดมาทั้งหมดนั้นเป็นความผิดพลาดของชีวิต ใช้ความหลงของจิตนำทางให้กับชีวิต ถึงกับน้ำตาหยดเพราะสงสารตัวเองที่โง่มายาวนาน(ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา) หลังจากปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนสามารถเข้าถึงปัญญาเห็นแจ้งแล้ว จึงได้ปรับเส้นทางเดินของชีวิตเสียใหม่ ไม่ให้ต้องมาหลงเวียนตายเกิดอีก จึงได้นำชีวิตเข้ามาอยู่ในเส้นทางธรรม ด้วยประการฉะนี้แล
8. เราจำเป็นต้องมีอภิญญาเพื่อเชื่อในเรื่องของ นรก สวรรค์ก่อนจะปฏิบัติธรรมหรือไม่ มีผู้อ้างว่าเป็นพระอรหันต์ซึ่งเป็นพระแถบอีสานเราจะเชื่อดีหรือไม่
ตอบ
ไม่จำเป็น ผู้ที่อ้างว่าเป็นพระอรหันต์ อย่าเพิ่งปลงใจเชื่อ พระพุทธะสอนให้ใช้ปัญญาและใช้เวลาดูนานๆแล้วค่อยตัดสินใจ บุคคลใดพัฒนาจิตวิญญาณตัวเอง จนสามารถเข้าสู่ความเป็นอริยบุคคลได้ คงไม่เชื่อคำพูดที่ออกจากปากมนุษย์ แต่เชื่อเหตุผล และหากเมื่อใด อริยบุคคลสามารถละสังโยชน์(กิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์) ทั้ง 10 ตัวได้(สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลพตปรามาส กามราคะ ปฏิคะ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะและอวิชชา) จะแจ่มแจ้งในคำอ้างข้างต้น
ปุถุชน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่หรือปรามาส เพื่อไม่ทำให้ชีวิตผิดพลาดหรือตกต่ำ พึงเปิดใจฟังไว้สักน้อยก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรนัก
9. ดิฉันได้อ่านมาดสดใสในตอนที่ว่า ดาราไปพบผู้ที่ใช้กรรมอยู่ถึง 9 ปี โดยที่ในระหว่างที่นอนอยู่นั้นมีพระภิกษุโยนอาหารเข้าไปให้ทุกครั้ง แสดงว่าท่านทราบว่ามีผู้ป่วยอยู่ในนั้นทำไมจึงไม่ช่วย สงสัยจังคะอยู่จน 9 ปี จึงมีดาราไปพบ
ตอบ
ถ้าผู้ถามเข้าถึงความจริงในเรื่อง กิเลส กรรม วิบาก จะต้องทำตัวแบบพระสงฆ์องค์นั้นแหละครับเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น โปรดย้อนกลับไปอ่านคำตอบข้อที่1
10. ถ้านั่งสมาธิ ไประดับหนึ่ง จิตจะนึกถึงเรื่องกาม (เพศ) ระยะหลัง ๆ จึงไม่กล้าไปทำบุญกับพระอริยบุคคลอีกเลย เพราะจิตจะติดลบภาพอริยบุคคลและมาสัมพันธ์กับเรื่องเพศ ผู้ถามกลัวตกนรกมาก จะกำหนดหรือปฏิบัติอย่างไร จึงจะผ่านสภาวะตรงนี้หรือกรรมนี้
ตอบ
วิธีแก้ปัญหาของคุณคือแก้ที่ตัวเอง เจริญสติให้เข้ม แล้วใช้สติคุมจิตอย่าให้ออกไปนอกตัว อกุศลกรรมก็จะไม่เกิด
11. ทำอย่างไร เมื่อตายแล้วจะเข้าสู่พรหมโลกได้ ไม่อยากกลับมาเกิดอีกค่ะ
ตอบ
ตายแล้วไปเกิดเป็นพรหม ต้องสร้างเหตุให้ตรงคือ เจริญสติจนเข้าถึงสมาธิขั้นสูงสุด(อัปปนาสมาธิ)แล้วจิตจะพัฒนาโดยอัตโนมัติไปสู่องค์ฌาน(1-4) จิตจะไปโอปปาติกะ(ผุดขึ้น)เป็นพรหมมีรูป แต่ถ้าจิตทิ้งร่างในขณะจิตเข้าสู้อรูปฌาน(1-4) จิตจะไปโอปปาติกะเป็นอรูปพรหม การเป็นพรหมมีรูปและไม่มีรูปมีข้อเสีย ตรงที่ว่าเมื่อหมดอายุขัยของการเป็นพรหมแล้ว ต้องกลับมาเกิดเป็นสัตว์ในสังสารวัฏอีก
ถ้าไม่อยากกลับมาเกิดอีก ต้องละกิเลสให้หมด จนกระทั่งจิตไม่มีอวิชชาหลงเหลืออยู่ ด้วยการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนบรรลุความเป็นอริยบุคคลขั้นสูงสุด เมื่อทิ้งขันธ์แล้วจะไม่กลับมาเกิดในสังสารวัฏอีก
12. โยนิโสมนสิการกับศรัทธาต่างกันอย่างไร
ตอบ
ทั้งสองคำต่างกันในความหมาย คำว่าโยนิโสมนสิการ เป็นตัวปัญญา เป็นการใช้ปัญญาพิจารณาสิ่งต่างๆโดยแยบคาย เพื่อเข้าถึงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผลคือเข้าถึงความจริงของสรรพสิ่ง เมื่อรู้จริงแล้วอวิชชาและตัณหาจะถูกกำจัดหมดไป
ส่วนคำว่า ศรัทธา เป็นความเชื่อที่เกิดขึ้นในใจ ความเชื่อที่ใช้อารมณ์สนับสนุนเป็นความเชื่อที่อาจไม่เป็นจริง ไม่ยั่งยืน เกิดเป็นปัญหาและอุปสรรคกับผู้เชื่อแบบนี้ได้ พระพุทธะสอนให้เชื่อด้วยการมีเหตุผลสนับสนุน เพราะเป็นความเชื่อที่เป็นจริง ไม่ถูกหลอกและยั่งยืน ผู้มีความเชื่อแบบหลังนี้ไม่มีอุปสรรคปัญหาเกิดขึ้นกับชีวิตด้วยเห็นเหตุแห่งความเชื่อนั้น
13. การที่เราตั้งใจสวดมนต์ไหว้พระ เจริญภาวนา รวมทั้งฟังธรรมปฏิบัติธรรม แล้วตั้งจิตอธิษฐานให้มารดาที่สุขภาพไม่แข็งแรงไม่สบาย มีร่างกายที่แข็งแรงขึ้นนั้นจะสามารถช่วยได้หรือไม่ค่ะ จะทำอย่างไรให้คนขี้เกียจเป็นคนขยันได้ค่ะ
ตอบ
ความเสื่อมของสุขภาพที่มีสาเหตุมาจากความเสื่อมของขันธ์ 5 (ชาติ ชรา พยาธิ มรณะ)ความเจ็บป่วยแบบนี้อธิษฐานให้มารดาหายจากพยาธิสภาพเป็นไปไม่ได้ ความเจ็บป่วยที่มารดาไปเบียดเบียนผู้อื่น แล้วผลกรรมตามทัน ลูกอธิษฐานให้มารดาหายป่วยย่อมเป็นไปไม่ได้เพราะแก้ไม่ถูกจุด แต่ถ้าความเจ็บป่วยเกิดจากจิตของมารดาเบียดเบียนตัวเอง ถ้าอธิษฐานให้มารดามีสัมมาทิฏฐิเลิกเบียดเบียนตัวเองได้ ความเจ็บป่วยมีโอกาสหายไปได้
เรื่องเปลี่ยนคนขี้เกียจให้เป็นคนขยัน เป็นไปได้ต่อเมื่อคนขี้เกียจนั้น ต้องพัฒนาสติขึ้นมาแล้วใช้สติคุมจิตไม่ให้จิตส่งออกนอกตัว จิตจะสงบ จิตจะมีพลังแล้วความขี้เกียจจะหายไป ความขยันจะเข้ามาแทนที่
14. การตั้งศาลพระภูมิ การตั้งศาลตายาย หากได้รับคำแนะนำให้ตั้งแล้วไม่ตั้ง โดยยึดถือตามคำสอนของท่านผู้บรรยายว่าทุกอย่างอยู่ที่มงคลในตัวเรา จะถูกต้องหรือไม่คะ
ตอบ
ได้รับคำแนะนำให้ตั้งศาลพระภูมิ ศาลตายาย คนอื่นแนะนำได้แต่จะทำตามหรือไม่ อยู่ที่ตัวคุณเอง หากตั้งศาลแล้ว คุณแสดงความเคารพบูชาคุณของเทวดา คุณของตายาย เป็นการบูชาคุณของผู้มีพระคุณนับเป็นมงคลแก่ตัวเองได้
15. ดร.สนอง เคยกล่าวว่า คนที่จะเกิดเป็นมนุษย์ได้ ต้องมีศีลครบ แต่ปัจจุบันมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยถือศีล 5 หรือศีล 5 ไม่ครบ แต่ทำไมประชากรของโลกเพิ่มขึ้นตลอด
ตอบ
เหตุเพราะสัตว์ในภพภูมิอื่นๆเกิดมาเป็นมนุษย์เช่นเทวดา พรหมจุติมาเกิดเป็นมนุษย์(มนุสสเทโว) มนุษย์ตายแล้วกลับมาเกิดเป็นมนุษย์(มนุสสภูโต)และที่มากที่สุด สัตว์ในอบายภูมิทั้งสี่มาเกิดเป็นมนุษย์(มนุสสเปโต มนุสสติรัจฉาโน มนุสสเนรยิโก)
16. การมีอาชีพปล่อยเงินกู้ ถือเป็นอกุศลกรรมหรือไม่อย่างไร หากคิดดอกเบี้ยไม่โหด แต่ต้องการช่วยเหลือผู้เดือดร้อน (
อ่านคำตอบ ข้อ 120-2)
17. เรื่องฮวงจุ้ยในศาสนาพุทธ มีหรือไม่ ทำไมบางบ้านอยู่แล้วเกิดเหตุการณ์คนในบ้านตายไปทีละคน ทางศาสนาพุทธจะอธิบายอย่างไร บ้านที่อยู่มีผลหรือไม่ (
คำตอบ ข้อ 120-3)
18. อยากพิสูจน์ว่าเทวดา สวรรค์ หรือนรก ควรจะทำอย่างไร
ตอบ
ถ้าอยากพิสูจน์ด้วยตัวเอง ต้องพัฒนาจิตของคุณให้มีคุณสมบัติดังนี้
1.ฝึกจิตจนสามารถเข้าสมาธิขั้นสูงสุด(อัปปนาสมาธิ)ได้
2. จิตเข้าถึงองค์ฌานทั้ง 4 ได้
3. จิตถอนออกจากฌานแล้วอธิษฐาน ขอเห็นนรก สวรรค์ เทวดา
หากทำได้ครบเงื่อนไข คุณสามารถเข้าถึงสิ่งที่คุณอยากพิสูจน์ได้
19 . เวลาใส่บาตรพระกลัวว่าของจะเหลือทิ้งหรือเจอพระปลอม
ตอบ
ที่พูดมาแสดงว่าได้เอาอาหารใส่บาตรแล้ว บุญได้เกิดขึ้นแล้ว ขณะเดียวกัน ความคิดที่เป็นอกุศล(ของจะเหลือ หรือจะเป็นพระปลอม) ได้เกิดขึ้นพร้อมการใส่บาตร เป็นการทำกรรมที่ได้ทั้งบุญทั้งบาป
คนฉลาดคิดว่าการให้อาหารเป็นทาน ให้แล้วได้บุญจึงคิดใส่บาตร ใส่บาตรแล้วจบ ไม่คิดต่อที่เป็นลบ เขาย่อมได้บุญที่ไม่มีบาปเจือปน
20 . ถ้ามีความปรารถนาจะอิ่มทิพย์เพราะเบื่อที่ต้องกินอาหารเข้าไปทุกวัน ๆ ถ้าไม่ต้องกินก็ไม่ต้องทำงานหาเงินความปรารถนาเช่นนี้เพ้อเจ้อหรือไม่
ตอบ
เป็นความปรารถนาที่เพ้อเจ้อ เป็นไปไม่ได้ เพราะรูปนามของตัวเองยังป็นรูปนามหยาบของมนุษย์ หากปรารถนาความอิ่มทิพย์ในชาติหน้าภพหน้า มีความเป็นไปได้ แต่ ต้องสร้างเหตุให้ตรงคือ ทำตัวให้มีศีลมีหิริโอตตัปปะ และให้ทานอยู่เนืองๆตราบจนวันสุดท้ายแห่งอายุขัย
2 1 . การที่อยากมีบุตรแต่ไม่มีถือว่าเกิดจากอกุศลกรรม หรือกุศลกรรม (
อ่านคำตอบ ข้อ 120-1)
2 2 . กรณีอาราธนาศีลรับไม่ครบ 5 ข้อ แต่ใจขอรักษาศีลเท่าที่รับไว้อาจจะ 4 ข้อเป็นต้น อย่างนี้ถือว่าผิดไหมคะ
ตอบ
เมื่อกล่าวคำรับศีล(สมาทาน) ข้อใดที่ไม่ต้องการรับ เช่น ศีลข้อ 5 สุราเมรยะ...ก็ไม่ต้องกล่าวคำสมาทาน รับเพียง4ข้อ และปฏิบัติให้ได้ทั้ง 4 ข้อ ถือว่าไม่ผิดสัจจะ แต่ศีลไม่ครบ หากจิตจำต้องหลุดจากร่างขณะศีลไม่ครบ โอกาสไปเกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ เป็นไปได้
2 3 . พระโสดาบัน ยังมีบุตร-ภรรยาได้ไหมครับ (
อ่านคำตอบ ข้อ 120-1)
2 4 . ผู้ที่เข้าถึงไตรสรณาคมเป็นอย่างไรครับ
ตอบ
ผู้เข้าถึงไตรสรณาคมน์ คือผู้มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อยู่ในใจ เป็นผู้ที่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่บูชา เป็นผู้ที่ไม่เสื่อมไปจากความดีและไม่ลงไปเกิดต่ำ
2 5 . มีคำกล่าวที่ว่า การทำความดีไม่ควรหวังสิ่งตอบแทน แล้วทำไมคนเราถึงทำความดีหรือทำบุญโดยหวังว่าเราจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นภายภาคหน้าหรือในชาติหน้า แม้กระทั่งหวังว่าจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ทำไมเราถึงไม่ทำความดีโดยคิดว่า เราทำเพราะเราอยากที่จะทำ เราทำแล้วเรามีความสุข ณ ปัจจุบันนี้
ตอบ
การทำความดีโดยหวังให้ความดีกลับมาตอบแทน เป็นความดีนี่ยังมีตัณหาเข้าเจือปน ยังไม่ดีแท้ หากคิดว่าทำความดีเพราะอยากทำ ทำแล้วมีความสุข ก็ยังไม่ดีแท้เพราะยังติดดีอยู่ จิตที่ติดดีเช่นติดความสุขแก้ได้ยาก จิตที่ติดไม่ดี เช่นติดความทุกข์แก้ได้ง่ายกว่า ผู้รู้ทำความดีเพื่อความดีและไม่ติดดี เช่นทำจิตใจตัวเองให้หมดสิ่งเศร้าหมอง (กิเลส) ทำจิตใจตัวเองให้หมดจากความไม่รู้จริง (อวิชชา) เหส่านี้เรียกว่าทำความดีเพื่อความดีและไม่ติดดี เป็นการทำความดีสูงสูด ที่พระอรหันต์สาวกทำให้ชาวโลกดู
2 6 . พระอรหันต์สมัยก่อนคือสมัยพุทธกาล มีพระอรหันต์เป็นจำนวนมาก สมัยนี้ทำไมไม่มีหรือมีแต่มีน้อยมาก คนที่ทำความชั่วสมัยพุทธกาลจะถูกแผ่นดินสูบแต่สมัยนี้ทำไมไม่มี
ตอบ
เหตุเพราะยุคสมัยของโลกและจักรวาล มีการเปลี่ยนแปลงไม่คงที่หากคุณต้องการเห็นพระอรหันต์จำนวนมากในกาลข้างหน้า หรือปรารถนาเห็นคนถูกธรณีสูบ คุณต้องสร้างมหาทาน รักษาศีล และอธิษฐาน ขอเกิดมาพบพระพุทธเจ้า
แล้วคุณต้องสร้างเหตุให้ตรงคือ บำเพ็ญทาน รักษาศีล สมาคมกับคนไม่โกรธ คนมีสติปัญญา คนที่เบื่อหน่ายในสังสารวัฏ ฯลฯ เหล่านี้ประพฤติปฏิบัติอยู่เนืองนิตย์แล้วมีโอกาสสมหวังในกาลข้างหน้าได้
2 7 . อยากทราบว่าจิตใต้สำนึกสามารถควบคุมจิตเหนือสำนึกได้หรือไม่ และมีวิธีการควบคุมอย่างไร
ตอบ
จิตที่อยู่เหนือสำนึกไม่มีใครบัญญัติไว้ มีแต่บัญญัติเป็นจิตสำนึก ( concious ) จิตไร้สำนึก ( unconcious ) และจิตใต้สำนึก ( subconcious ) ซึ่งเป็นภาวะของจิตที่ไม่อาจรู้สึกได้ จึงทำงานควบคุมอะไรไม่ได้
2 8 . บางคนทำบาปอย่างไร เช่นรับเงินใต้โต๊ะแต่เขาพูดว่าเขาทำถูกต้องเป็นเงินที่เขาควรจะได้เมื่อทำและคิดแบบนี้จิตก็จะประทับว่าเขาทำถูกต้องใช่ไหม
ตอบ
เป็นความถูกต้องของผู้เห็นผิดเป็นถูก เช่นเห็นว่าฆ่าสัตว์ไม่บาปเพราะสัตว์เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์ ซึ่งเป็นการไม่ถูกต้องตามธรรม จิตไม่ได้เก็บข้อมูลว่าผิดหรือถูก แต่เก็บข้อมูลว่าได้ทำอะไรไปแล้วนั่นต่างหาก
2 9 . มีโอกาสพบกับพระวิปัสสนากรรมฐานได้ฟังธรรมและได้ทำบุญกับท่านและท่านได้ให้ของมาบูชา เช่นพระบรมสารีริกธาตุ นกคุ้มภัย เป็นต้น เพื่อมาบูชา ไม่ทราบว่าเป็นการถูกต้องหรือไม่ เพราะรับมาแล้วก็กังวลว่าต้องบูชาหรือปฏิบัติอย่างไร
ตอบ
พระบรมสารีริกธาตุ จัดเป็นธาตุเจดีย์ ที่พุทธศาสนิกชนควรบูชา เพื่อระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า
พระพุทธะไม่เคยสอนให้เอานกมาคุ้มภัย แต่สอนว่า ธรรมะย่อมคุ้มรักษาผู้ประพฤติธรรม (ธัมโมหะเว รักขติ ธัมมะจารี)
30. ศาลพระภูมิ เจ้าของบ้านควรบูชาด้วยอะไร อย่างไร เป็นวิถีพุทธหรือไม่
ตอบ
มิได้เป็นวิถีพุทธ พระพุทธะสอนให้พึ่งธรรมะ ทำจิตให้รู้เท่าทันสมมติ เช่น โลกธรรม (ลาภ เสื่อมลาภ , ยศ เสื่อมยศ , สุข ทุกข์ , สรรเสริญ นินทา) และวัตถุ ใช้สมมติเป็น ได้ประโยชน์จากสมมติ แต่จิตใจ ไม่เป็นทาสของสมมติ
เรื่องศาลพระภูมิ ถูกมนุษย์สมมติให้เป็นที่อยู่อาศัยของภูมิเทวดา ถ้ามีปฏิสัมพันธ์ดี เทวดาให้คุณได้ ถ้าปฏิสัมพันธ์ไม่ดี เทวดาให้โทษได้ พระพุทธะไม่ปฏิเสธเทวดาแต่ไม่ได้เอาเทวดาเป็นที่พึ่งสูงสุด เพราะเทวดายังมีกิเลส ยังเกิด ตายได้ ยังมีความเห็นถูก เห็นผิดได้ ฯลฯ การมีปฏิสัมพันธ์ดีกับภูมิเทวดา ไม่ต่างจากการมีปฏิสัมพันธ์ดีกับเพื่อนบ้าน ฉะนั้นควรเซ่นสังเวยเทวดาด้วยอาหาร ผลไม้ น้ำดื่มอย่างที่มนุษย์ผู้มีสัมมาทิฏฐิบริโภค เวลาจะสวดมนต์ ฟังธรรม ควรอัญเชิญเทวดามาร่วมสวดร่วมฟังด้วยหรือถ้าคุณมีศักยภาพสูงพอ ก็ชวนเทวดามาเสวนาธรรมด้วยก็ยิ่งดี เพราะจะได้เพื่อนที่เป็นเทวดาอีกด้วย
31. บุญใด ที่สามารถอุทิศให้ได้ทั้งหมด 37 ภพ ภูมิได้อีก นอกจากบุญจากวิปัสสนากรรมฐาน
ตอบ
บุญกุศลทุกชนิดที่เกิดจากการปฏิบัติตามบุญกิริยาวัตถุ 10 (ทาน ศีล ภาวนา ประพฤติอ่อนน้อม ช่วยเหลือผู้อื่น อุทิศความดีให้ ยินดีในความดีของผู้อื่น ฟังธรรม เทศน์ธรรม ทำความเห็นให้ตรง) เมื่อได้ทำแล้วสามารถอุทิศบุญกุศลที่เกิดขึ้น ให้กับสัตว์ในภพภูมิต่าง ๆ ที่อยู่ในทิศทั้ง 8 กว้างไกลออกไปโดยไม่มีประมาณ
32. บุคคลผู้ตั้งจิตปรารถนา พุทธภูมิ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าเป็นผู้ที่เข้าข่ายเป็นอริยบุคคล หรืออริยสงฆ์หรือไม่ครับ
ตอบ
พระปัจเจกพุทธะ เป็นสมมติบัญญัติที่ใช้เรียกอริยบุคคลผู้บรรลุโพธิญาณ หรืออริยสงฆ์ผู้บรรลุโพธิญาณ แต่บุคคลผู้ตั้งจิตปรารถนาพุทธภูมิ เรียกว่า โพธิสัตว์ ยังมีความเป็นปุถุชนอยู่ในจิตใจ
33. การทำบุญโดยเลือกว่าต้องทำกับพระหรือทำที่วัดจะได้บุญมากกว่าการทำบุญกับบุคคลทั่วไป อย่างนี้ถือว่ายังมีกิเลสคือทำเพราะหวังผลหรือไม่
ตอบ
การทำบุญ พระพุทธะสอนให้ใช้ปัญญา ทำบุญกับผู้ทุศีล ได้อานิสงส์น้อยกว่าทำบุญกับผู้มีศีล ทำบุญกับผู้มีคุณธรรมต่ำ ได้อานิสงส์น้อยกว่า ทำบุญกับผู้มีคุณธรรมสูง ทำบุญกับผู้มีคุณธรรมสูง 1 คน ได้อานิสงส์น้อยกว่าทำบุญกับกลุ่มของผู้มีคุณธรรมสูง
เรื่องนี้เปรียบเทียบได้กับ ชาวนาคนที่หนึ่งมีข้าวหอมมะลิสายพันธุ์ดี เอาเมล็ดข้าวไปหว่านในนาที่มีดินเลว ข้าว 1 เมล็ด งอดและโตเป็นต้นข้าว 1 กอ ประกอบด้วยต้นข้าว 3 ต้น ได้ข้าว 3 รวง ส่วนชาวนาคนที่สอง มีข้าวพันธุ์ดีสายพันธุ์เดียวกัน แต่นำไปหว่านในนาที่มีดินดี ข้าว 1 เมล็ด งอกและโตเป็นต้นข้าว 1 กอ ประกอบด้วย ต้นข้าว 39 ต้น ได้ข้าว 39 รวง
สมมติว่าคุณเป็นชาวนาคนที่สาม คุณจะเลือกหว่านเมล็ดข้าวลงในนาแบบไหน เช่นเดียวกันทำบุญเพื่อหวังจะได้อานิสงส์กลับมา เพราะบุญเป็นฐานรองรับการพัฒนาคุณธรรม ถ้าคุณมีบุญมากเป็นฐานใหญ่ สามารถรองรับการพัฒนาคุณธรรมได้มากได้สูง ถ้าคุณมีบุญน้อยเป็นฐานเล็ก สามารถรองรับการพัฒนาคุณธรรมได้น้อย ได้ไม่สูง
34. หากเราพบผู้ที่มีความทุกข์ และเราพยายามช่วยเหลือ แต่เขาไม่ต้องการ เราควรปล่อยวางหรือพยายามหาทางอื่นช่วยเหลือต่อไป
ตอบ
ต้องพยายามหาทางช่วยเหลือในทุกวิถีทาง ถ้าช่วยเขาให้เป็นผู้มีสัมาทิฏฐิจะดีที่สุด หากเขายังไม่ยอมรับต้องปล่อยวางเหมือนพระพุทธะปล่อยวางพระเทวทัต เหมือนคณะสงฆ์ในครั้งพุทธกาลปล่อยวางพระฉันนะผู้มีมิจฉาทิฏฐิ ด้วยการลงพรหมทัณฑ์ คือไม่พูดด้วย ไม่ตักเตือน ไม่สั่งสอน
35. การทำหมันสุนัขจรจัด เพื่อไม่ให้ขยายพันธุ์ถือว่าเป็นบาปกรรมหรือไม่ (
อ่านคำตอบ ข้อ 65)
36. กรุณาสอนวิธีแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้ถึงผู้รับได้ผลควรจะรักษาอารมณ์อย่างไร (หลังจากปฏิบัติธรรม ทำความดีเสร็จแล้ว)
ตอบ
การแผ่เมตตา จิตใจต้องมีเมตตาก่อน (ต้องมีสิ่งนั้นเราจึงจะให้ได้) การอุทิศบุญกุศล ให้ทำจิตนิ่ง นึกถึงบุญที่เราได้ทำ (ดูในบุญกิริวัตถุ ๑๐) แล้วส่งถึงผู้รับ ให้ระลึกถึงผู้รับ ด้วยจิตนิ่ง เพื่อให้มีกำลังส่งไปได้ไกลจะกรวดน้ำหรือไม่ก็ได้
37. ในหนังสือเขียนยืนยันไว้ว่า การสวดบทโพชฌังคปริตรทำให้หายเจ็บป่วยได้ แม้กระทั่งพระมหากัสสปะ พระโมคคัลลานะ และพระพุทธองค์เอง ที่เคยอาพาธหนัก เมื่อได้สวดบทโพชฌงค์ ถวายแล้วก็หายอาพาธทันทีอยากทราบว่ามีความจริงเพียงใด ถ้าเป็นเช่นนั้น หมอแผนปัจจุบันก็ไม่มีความหมายนะซิ
ตอบ
ในกาลามสูตร พระพุทธเจ้าตรัสสอนชาวกาลามะ ไม่ให้เชื่องมงายไร้เหตุผล อยู่ 10 ข้อ และ 1 ข้อในนั้นกล่าวไว้ว่า อย่าปลงใจเชื่อด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์ ที่ผู้ ถามไม่เชื่อนั้นถูกต้องแล้ว แต่ยังถูกไม่หมด ถ้าจะให้ถูกหมดตามเจตนารมณ์ของกาลามสูตร ผู้ถามต้องพัฒนาปัญญาสูงสุด (ภาวนามยปัญญา) ให้เกิดขึ้นกับตัวเอง แล้วเอาปัญญาเห็นแจ้งมาพิจารณาบทสวดโพชฌงค์ปริตร ว่าเมื่อสวดแล้วทำให้หายจากอาพาธได้จริงตามพุทธวจนะ
เช่นเดียวกันในปัจจุบัน พระอริยสงฆ์ที่มีชีวิตอยู่ในป่าในถ้ำ ที่ต้องอาพาธจากไข้ป่า (มาลาเรีย) สามารถหายจากอาการอาพาธได้ด้วยการทำจิตตภาวนา เข้านิโรธสมาบัติได้นาน 3 วัน โรคไข้ป่าหายไปเป็นปลิดทิ้ง เช่นเดียวกันมีฆราวาสสามารถใช้วิชาการของมหายาน รักษาคนไข้ที่ถูกงูเห่ากัดให้หายได้ โดยไม่ต้องใช้เซรุ่มหรือวัคซีนฉีดอย่างที่แพทย์แผนปัจจุบันใช้กันอยู่ 2 ตัวอย่างนี้เป็นเรื่องจริงและไม่ต้องการให้ท่านปลงใจเชื่อ เหตุเพราะการศึกษาในปัจจุบัน เข้าถึงปัญญาได้ 2 ระดับ คือสุตมยปัญญาและจินตมยปัญญา ยังเข้าไม่ถึงปัญญาสูงสุดคือภาวนามยปัญญา จึงไม่สามารถรู้เห็นเข้าใจ สิ่งที่ยกตัวอย่างมาให้ดูได้ .. พิสูจน์เองสิครับ
38. องคุลีมาลก่อนบวชได้ฆ่าคนมากมายแต่เมื่อบรรลุแล้ว กรรมนั้นถือเป็นอโหสิแต่เศษกรรมได้ทำเมื่อออกบิณฑบาตมีคนขว้างปาก้อนอิฐก้อนหินใส่ซึ่งเป็นเศษกรรมของพระองคุลีมาลเองที่เกิดจากการฆ่าคน แล้วคนที่เอาก้อนหิน ก้อนอิฐ ขว้างองคุลีมาล (พระที่เป็นอรหันต์แล้ว) จะเป็นบาปหรือไม่
ตอบ
เอาก้อนหินไปขว้างพระอรหันต์ เป็นบาปแน่นอน บาปมากด้วย ด้วยเหตุนี้พระพุทธจึงสอนว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ดูตัวอย่างของพระองคุลีมาล ถูกก้อนหินก้อนอิฐขว้างจนหัวแตก ยังสงบไม่ตอบโต้ หนีเวรที่เคยผูกกันไว้จะได้หมดกันไป
39. หากเตรียมอาหารไว้ใส่บาตร แต่ไม่มีพระมารับอาหารบิณฑบาตสามารถนำอาหารนั้นมารับประทานได้หรือไม่
ตอบ
นำมารับประทานได้ ไม่เป็นบาป
40. ขณะทำอาหารเพื่อใส่บาตรตอนเช้า จะทดลองชิมอาหารว่ารสชาติใช้ได้แล้วหรือยัง เช่นนี้เป็นบาปหรือไม่
ตอบ
การปรุงอาหารแล้วชิมเป็นเจตนาทดสอบรสชาติ หลังจากนั้นนำอาหารที่ปรุงได้ที่แล้วไปใส่บาตร ไม่ถือว่าเป็นเดนอาหารไม่บาป
41. ปัจจุบันมีชาวต่างชาติมากมายหันมาปฏิบัติธรรม แต่เขาไม่กราบพระพุทธรูปและบอกว่าไม่เป็นชาวพุทธ แต่นับถือ พระธรรมของพระพุทธเจ้า เพราะพระธรรมเป็นของมีอยู่ในธรรมชาติเป็นอยู่ใน universal คำถามคือคนเหล่านี้ถือเป็นชาวพุทธหรือไม่ ทำถูกหรือไม่
ตอบ
เขาทำถูกแล้วเพราะเขาไม่ใช่ชาวพุทธ เขาเห็นถูกว่าพระธรรมเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ ถ้าเขาเอาพระธรรมเข้ามาไว้ในใจได้ เขาจะเป็นชาวโลกที่ดีคนหนึ่ง น่าสรรเสริญ
42. ลูกสาวอายุ 10 ปี เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เสียชีวิตวันที่ 1 สิงหาคม 2548 คิดถึงลูกมาก สงสารลูกมากที่อายุสั้น ลูกสาวก็อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ไม่มีโอกาส ตอนนี้มีความทุกข์มาก
ตอบ
ทุกข์เพราะคุณเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) ด้วยการไปยึดถือว่าเขาเป็นลูกของคุณ แท้จริงเขาเป็นเพียงจิตวิญญาณ หนึ่งที่มาอาศัยท้องเป็นที่เกิดเท่านั้น
ในครั้งที่พระพุทธะยังมีชีวิตอยู่ มีลูกสาวเศรษฐี แต่งงานแล้วมีลูกชาย 1 คน ตายลงเมื่ออายุได้ 3 ขวบ นางกีสาโคตรมีเสียใจมากมีความทุกข์มาก อุ้มศพลูกชายตระเวณไปในที่ต่าง ๆ จนไปพบพระพุทธเจ้า ท่านคิดจะช่วยหญิงทุกข์คนนี้ โดยให้อุ้มศพเดินไปหาเมล็ดผักกาดจากบ้านที่ไม่เคยมีคนตายมาก่อน เพื่อขอเมล็ดผักกาดมาทำยารักษาเด็กให้ฟื้น นางกีสาโคตรมีได้เดินตามไปทุกหลังคาเรือน ทุกบ้านล้วนเคยมีคนตายมาก่อนแล้วทั้งนั้น บ้านที่ไม่เคยมีคนตายเลยหาไม่ได้สักหลัง ในที่สุดนางกีสาโคตรมีได้สติ รู้ว่าเกิดมาแล้วต้องตายทุกคน
นางได้เห็นสัจจธรรม จึงเอาศพลูกไปทิ้งไว้ที่ป่าช้า แล้วไปหาพระพุทธเจ้าขอฟังธรรม จนบรรลุโสดาบันแล้วขอบวชเป็นภิกษุณี
43. จะคลายความติดยึดของจิตได้อย่างไร
ตอบ
ต้องพัฒนาจิตใจตนเองให้มีสติและมีปัญญาเห็นถูก (สติสัมปชัญญะ) ใช้ปัญญาเห็นถูกนำทางให้ชีวิต จะเห็นว่าทุกสิ่งมีเกิดแล้วมีดับไปเป็นธรรมดา ให้เอาปัญญามาพิจารณาขันธ์ 5 (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) จะเห็นว่าแต่ละขันธ์เป็นเพียงสมมติ ดับไปตามกฎไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) เมื่อร่างกายไม่มี อัตตาหรือตัวตนก็ไม่มี เมื่ออัตตาไม่มี ความยึดติดหายไปเป็นอัตโนมัติ
44. จะสร้างศรัทธา ให้สามารถปฏิบัติความดีต่อได้อย่างไร
ตอบ
จะสร้างศรัทธาเพื่อให้เกิด การทำความดีต่อไปได้เรื่อย ๆ ต้องเข้าหากัลยาณมิตรในทางธรรม รับฟังคำสอน พิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ (โยนิโสมนสิการ) จะเกิดเป็นความเห็นถูกตามธรรม (สัมมาทิฏฐิโลกุตระ) ความศรัทธาที่ยั่งยืนจะเกิดตามมา
45. การปล่อยวางกับการกดจิตไม่ให้คิด แตกต่างอย่างไรและจะปฏิบัติอย่างไรให้ปล่อยวางได้
ตอบ
การกดจิตไม่ให้คิด ใช้กำลังของสมาธิเป็นตัวกดตัวช่วย แต่การปล่อยวางต้องใช้กำลังปัญญาเห็นแจ้ง พิจารณาจนเห็นว่า ความคิดดับไปตามกฎไตรลักษณ์ จิตจึงปล่อยวางเป็นอิสระจากความคิดได้
อยากปล่อยวางได้ ต้องเจริญสติให้เข้ม แล้วปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจนเข้าถึงวิปัสสนาญาณ แล้วใช้ปัญญานี้นำทางให้กับชีวิต จึงปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ ได้
46. บางขณะที่ฝึกจิต มักจะมีกระแสบางอย่างเหมือนคลื่นกระแสไฟฟ้าอยู่ทั่วร่างกายที่ภายในเหมือนแผ่นดินไหว และล้นออกมาภายนอกที่ฝ่ามือ ทำให้สับสนว่าสิ่งนี้ดีหรือไม่และควรปฏิบัติตนเช่นไร
ตอบ
สิ่งที่เกิดนั้นดีในทางโลก อย่างพระวัดเส้าหลิน ฝึกกำลังภายใน เอาไปใช้ป้องกันตัว แต่ไม่ดีในทางธรรม คือทำให้เกิดหลงตัวเองมามีกำลังเหนือคนอื่น จิตยังติดเป็นทาสของโลก ต้องเวียน ตาย เกิด อีกยาวไกล ถ้าประสงค์เดินตามพระพุทธะ ต้องแสวงหาครูที่เป็นกัลยาณมิตรทางธรรม เปลี่ยนกำลังภายในให้มาเป็นกำลังปัญญาเห็นแจ้ง แล้วใช้ปัญญานี้นำทางให้ชีวิต ก็สามารถตามรอยพระพุทธะได้
47. การทำบุญแบบอธิษฐาน กับไม่ได้อธิษฐานต่างกันหรือไม่
ตอบ
ต่างกันตรงที่ว่า คนที่ทำบุญแล้วอธิษฐาน จะเข้าถึงจุดหมายได้แน่นอน และถูกตรงกว่าคนที่ไม่ได้อธิษฐาน ดูพระอานนท์เป็นตัวอย่าง ท่านได้อธิษฐานไว้ในครั้งพุทธกาลของพระปทุมตตระ ขอให้ได้เป็นอุปัฏฐากในพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งในกาลข้างหน้า ในที่สุดเกิดมาพบพระพุทธโคดมและได้รับแต่งตั้งให้เป็นพุทธอุปัฏฐากประจำองค์พระพุทธโคดม ทั้ง ๆ ที่สงฆ์สาวกองค์อื่น เคยอุปัฏฐากรับใช้มาก่อนก็ไม่ได้รับแต่งตั้ง ด้วยเหตุที่มิได้อธิษฐานไว้ก่อนนั่นเอง
48. จากคำตอบของท่านอ.สนอง เมื่ออลัชชีทำไม่ดี แล้วเราเฉย เรื่องชั่วช่างชีดีช่างสงฆ์ ฯลฯ อย่างนี้จะถือว่าเราเอาตัวรอดหรือไม่ช่วยกัน บำรุงพระพุทธ ศาสนาหรือครับ ชาวพุทธแท้ควรทำตัวอย่างไรอีกบ้างครับ
ตอบ
ผู้รู้จริงและมีจิตสะอาดจริงไม่แก้ไขปัญหาที่คนอื่น เขาไม่ตำหนิคนอื่น เพราะในจิตไม่มีโปรแกรมติดลบประเภทนี้อยู่ในใจ ผู้รู้จริงเชื่อในคำสอนของพระพุทธะ ว่าให้แก้ปัญหาที่ตัวเอง อย่าไปแก้ปัญหาที่ผู้อื่น อย่างที่ผู้ใช้ปัญญาทางโลกทำกัน
สิ่งที่ชาวพุทธควรทำคือ ประพฤติตัวเองให้ตรงตามธรรมวินัย คือทำดีให้มวลชนดูเป็นตัวอย่าง เมื่อเขาเกิดศรัทธา จึงเอาความดีในธรรมวินัย เผยแผ่ให้เข้าสู่จิตใจของมวลชน อย่างนี้จึงจะเรียกได้ว่าเป็นการ บำรุงดูแลรักษาพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
49. ในพุทธกาล แต่ละท่านที่บรรลุธรรมมักได้พบครูบาอาจารย์และพระพุทธเจ้าเป็นผู้สอนหรือเทศน์ให้ตรวจจิตคนนั้น ๆ แล้วเราปฏิบัติเองในปัจจุบัน เราจะทราบอย่างไรว่าเรายังติดขัดอะไรจึงจะทำให้การปฏิบัติก้าวหน้าต่อได้
ตอบ
ในปัจจุบัน ถ้าประสงค์ปฏิบัติธรรมให้ถูกตรง และก้าวหน้าในมรรคผลควรต้องเข้าใกล้กัลยาณมิตร ผู้มีปฏิปทาถูกตรงตามธรรมวินัย ฝากตัวเป็นศิษย์รับฟังคำสอนโดยไม่สงสัย เร่งความเพียรปฏิบัติตามคำสอน ปรับแก้ไขตามที่กัลยาณมิตรบอกกล่าว มรรคผลเกิดได้แน่นอน
50. มีเพื่อนร่วมงานดื่มสุรา เราไม่เห็นด้วย แต่ไม่ได้ห้าม เพราะรู้ว่าถึงห้ามไปเค้าก็ไม่ใส่ใจ การที่เราไม่ได้ห้ามเค้าเป็นอกุศลหรือไม่
ตอบ
ถ้าคุณมีความรู้ในทางธรรมและเชื่อในกฏแห่งกรรม คุณจะไม่เข้าไปร่วมในอกุศลกรรมของเขา ด้วยการไม่เห็นด้วย หรือว่าเห็นด้วยแต่คุณไม่ดื่มสุรา ก็ยังถือว่าคุณมีส่วนร่วมในอกุศลกรรมของเขา เมื่อเหตุปัจจัยลงตัว อกุศลวิบากตามทันคุณต้องรับด้วย
หากคุณเห็นมีสัมมาทิฏฐิ ว่าสัตว์โลกเป็นไปตามกรรม คุณปล่อยวางเขาได้ ไม่เอาจิตไปยินดีหรือยินร้าย ไม่ถือว่าเป็นอกุศล
51. ถ้าทำบุญแต่ไม่ได้อธิษฐานสิ่งใด ๆ เลย เป็นการทำบุญที่ถูกวิธีหรือไม่คะ
ตอบ
การทำบุญแล้วไม่ได้อธิษฐาน หากคุณทำถูกต้องตามบุญกิริยาวัตถุ 10 ไม่ถือว่าผิดวิธีทำบุญ เพราะอธิษฐานเป็นส่วนของบารมีไม่เกี่ยวกับบุญ
52. อวิชชา คืออะไร
ตอบ
อวิชชาคือ ความไม่รู้จริง เช่นไม่รู้จริงในเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ไม่รู้จริงในเรื่องที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ไม่รู้จริงในเรื่องของทุกข์และการเป็นไปจากทุกข์ ฯลฯ มาตรวัดความไม่รู้จริง คือ การเกิดขึ้นของอุปสรรคและการเกิด ตาย ของชีวิตที่เวียนอยู่อย่างไม่รู้จบ
53. อยู่กับทุกข์ไม่เกิดทุกข์ทำอย่างไร
ตอบ
อยู่กับทุกข์โดยไม่เกิดทุกข์ คืออยู่อย่างรู้เท่าทันทุกข์ โดยไม่เอาจิตไปยึดติดว่าทุกข์นั้นเป็นของเรา ผู้ใดพัฒนาจิตจนเกิดปัญญาเห็นแจ้งในสรรพสิ่ง ถูกตรงตามที่เป็นจริง จะเห็นว่าทุกสิ่งเกิดแล้วดับในที่สุด ไม่มีตัวตนแท้จริง จิตปล่อยวาง จิตเป็นเพียงผู้ดู ผู้รู้ แต่ไม่เข้าไปมีส่วนร่วมจิตจะเป็นอิสระต่อสรรพสิ่ง จิตสงบแม้จะอยู่ในที่ร้อนก็ไม่ร้อน อยู่ในที่วุ่นวายได้อย่างสงบ ไม่วุ่นวายสับสนด้วย อย่างนี้จึงจะเรียกว่าอยู่กับทุกข์โดยไม่เกิดทุกข์
54. จิตปัจจุบันคือจิตว่างหรือไม่
ตอบ
จิตปัจจุบัน ถ้าอยู่ในสภาวะที่มีการเกิด ดับ (ตื่น , ทำงาน) เป็นจิตที่ไม่ว่างจากการรับสิ่งกระทบเข้ามาปรุงอารมณ์ ส่วน จิตว่าง เป็นจิตที่ปลอดจากการปรุงอารมณ์ เป็นจิตของบุคคลผู้เห็นสิ่งที่เข้ากระทบ (ผัสสะ) จิต ดับไปตามกฎไตรลักษณ์
55. เคยฟังบรรยายเกี่ยวกับ 4 อาชีพอันตรายคือ ผู้พิพากษา อัยการ ทนายความ ตำรวจ ผมกำลังจะได้ประกอบอาชีพ 1 ใน 4 นี้ จะมีคำแนะนำผมอย่างไร บ้างครับที่จะไม่ต้องลงอบายจากการประกอบอาชีพ
ตอบ
ถ้าจำเป็นต้องประกอบอาชีพนี้ และเสี่ยงต่ออบายภูมิน้อยที่สุด ต้องศึกษาและนำวิธีการทำงานของเปาบุ้นจิ้นมาใช้ และต้องสามารถพัฒนาจิตตนเอง ให้สามารถสื่อกับจิตวิญญาณของเปาบุ้นจิ้นได้ เพื่ออธิษฐานของบารมีของเปาบุ้นจิ้น มาช่วยบันดาลให้การทำหน้าที่ให้ถูกตรงตามคดีโลก
56. ในการปฏิบัติธรรม แล้วเกิดสภาวะรู้สึกว่าตัวพองโต กลัว ต้องบริกรรมหรือดูตรงไหนต่อไป ปฏิบัติ แล้วไม่ได้เกิดสภาวะเช่นนี้ทุกวันอย่างนี้จะมีการจิตก้าวหน้าในการปฏิบัติไหมคะ
ตอบ
ถ้าเกิดสภาวะรู้สึกว่า ตัวพองโต ให้กำหนดจิตว่า โตหนอ ๆ ๆ เรื่อยไปจนกว่าตัวพองโตดับไป ถ้าความกลัวเกิดขึ้น ให้กำหนดจิตว่า กลัวหนอ ๆ ๆ เรื่อยไปจนกว่าความกลัวดับไป แล้วดึงจิตกลับมาสู่องค์ภาวนาเดิม
57. ดิฉันขอแชร์ประสบการณ์ที่เคยได้รับรู้มาในอดีตจากครอบครัว คือ การยืนยันว่านรกมีจริง เนื่องจากน้องชายเล่าให้ฟังตอนประสบอุบัติเหตุว่า หมดลมไปแล้วไปเจอมัจจุราช ว่าให้กลับมาอยู่อีก 10 ปี หลังจากนั้นอีก 10 ปี น้องชายของดิฉันก็เสียชีวิตจริง ๆ ตามเวลาที่กำหนด ขอให้ญาติธรรมทุกท่าน จงเชื่อเรื่องนรกมีจริง และสร้างสมบุญไว้ให้มากเพื่อเก็บไว้ในชาติหน้า
ตอบ
นั่นเป็นการยืนยันคำว่า ปัจจัตตัง (เฉพาะตน) คือรู้เห็นได้เฉพาะตนมีจริงเป็นความจริง
58. ทุกวันนี้มีคนตายแทบทุกวัน อยากทราบว่าจิตวิญญาณหลังความตายนั้นจะต้องถูกพิจารณาความดีความชอบทุก ๆ วิญญาณจากท่านท้าวพญายมหรือเปล่าครับ ขอคำชี้แนะครับ
ตอบ
ทุกจิตวิญญาณที่มีความเป็นปุถุชน เมื่อทิ้งร่างเดิมแล้วต้องพบพญายมราชแน่นอน เพราะเป็นหน้าที่ของท่านต้องตัดสินว่าจะให้ไปเกิดที่ไหน ส่วนพวกสัมภเวสีต้องรอจนครบอายุขัย แล้วจึงจะได้พบพญายมราชเพื่อตัดสินภพภูมิที่จะต้องไปเกิด
59. จิตวิญญาณหลังความตายที่ว่าจะมาอยู่บ้านหรือเวียนวนอยู่กับร่างกายหรือญาติเพื่อติดต่อก่อนไปรับกรรมเรื่องทำนองนี้มีความเป็นไปได้อย่างไรบ้างครับ คือผมมีความรู้สึกว่าจิตวิญญาณ ของผู้ตายที่ผมรู้จักเมื่อผมไปงานของเขาผมจะต้องร้องไห้ โดยที่ลำพังความรู้สึกส่วนตัวนั้นไม่ได้ต้องการร้องไห้หรือเสียใจมาก ขนาดนั้นเหมือนว่าวิญญาณผู้ตายนั้นต้องการจะบอกว่ามีความเสียใจและเสียดายเวลาที่ผ่านมาหรืออาจจะบอกว่ากำลังจะไปรับทุกข์ในภพภูมิต่อไป หรือผมคิดไปเองอยากให้ช่วยวิเคราะห์และชี้แนะด้วยครับ
ตอบ
ที่ถามมาเป็นไปได้เฉพาะรายที่มีบุญมาก สามารถเลือกที่อยู่ได้ ตัวอย่างเพระเจ้าพิมพิสาร บุญของท่านสามารถส่งผลให้ไปเกิดเป็นเทวดาอยู่ในชั้นดาวดึงส์ได้ แต่ท่านเลือกเกิดเป็นยักษ์อยู่ในชั้นจาตุมหาราชิกา เหตุเพราะอยากอยู่ใกล้เพื่อนซี้คือท้าวกุเวร (เวสสุวัณ)
ความเชื่อของชาวธิเบต เวลามีคนในบ้านตาย เขาจะทำพิธีขับไล่จิตวิญญาณ ให้ไปเกิดในภพที่ควรแก่บุญบารมี ไม่ให้มาอยู่ที่บ้าน ถ้าคุณทำอย่างชาวธิเบตน่าจะดี แต่ไม่ต้องขับไล่เพราะเป็นเพื่อนกัน ควรทำบุญใหญ่แล้วอุทิศบุญกุศลให้เขา ไปใช้เป็นปัจจัยเดินทางของชีวิตในปรโลก
60. เคยเห็นหนังสือเรื่อง ตัดกรรมด้วยกรรมฐาน สามารถทำได้แค่ไหนอย่างไรครับ
ตอบ
ทำได้คือขอร้องให้ทุกคนที่ร่วมฝึกกรรมฐาน ช่วยกันอุทิศฯ (ใช้หนี้) ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของใครตนใดตนหนึ่ง ถ้าเขาพอใจเขาก็เลิกจองเวร เป็นการตัดหนี้ (กรรมเก่า) ให้หมดไปได้
61. เราจะทราบได้อย่างไรว่าใครมีคุณธรรม ต่อหน้าเราเขาอาจดี แต่ลับหลังเขาอาจเป็นอีกอย่างก็ได้ (บางคนเราอาจดูไม่ออกก็ได้)
ตอบ
ถ้าอยากรู้คุณต้องดูตัวเองให้ออก กำจัดกิเลสให้หมดไปจากใจ และทำจิตให้เปี่ยมด้วยคุณธรรมได้แล้ว คุณจะดูคนอื่นออกว่าเขามีคุณธรรมจริงหรือไม่
62. การที่ท่านอาจารย์กล่าวว่าทุกคนเท่ากันหมด ไม่ให้มีอัตตาแล้วคำว่าสัมมาคารวะจะใช้กับใคร
ตอบ
ทุกคนมีความเท่ากันในโอกาส ที่จะพัฒนาจิตให้หมดอัตตา ทางโลกเขาแสดงคารวะกันด้วย อายุ บุญคุณ ตำแหน่ง ยศ ฯลฯ แต่ทางธรรมแสดงคารวะกันด้วยการบวชก่อน คุณธรรม การบรรลุธรรม ฯลฯ
