1. ต้องการจิตเป็นอิสระ แต่จะติดที่เป็นทุกข์ทางใจ เพราะติดคำว่า กตัญญูรู้คุณ การที่บุพการีต้องการในสิ่งที่เกินกำลังที่เราจะหาให้ได้เช่นเราทำมาหากินให้ได้ 100 แต่บุพการีต้องการ 200 ก็เกินกำลังที่เราจะหาได้ ทำให้เราเป็นทุกข์จะทำอย่างไรดี เราหาไม่ได้ก็จะนั่งร้องไห้เสียใจแล้วมีการต่อว่าในใจนิด ๆ เราบาปไหม ทุกวันนี้บุพการีก็ยังทำอย่างนี้อยู่ เรามีภาระมากมายภายในครอบครัว ที่เราต้องรับผิดชอบ แต่ก็พยายามทำให้บุพการีก่อนเพราะอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ทำให้การปฏิบัติธรรมไม่สมบูรณ์เพราะคิดว่า การทำบุญกับบุพการียังไม่สมบูรณ์แล้วจะไปทำบุญอย่างอื่นก็ไม่ได้บุญ คิดอย่างนี้ผิดหรือไม่  การที่มีทุกข์ทางใจเกี่ยวกับบุพการี บุตร สามี เป็นกรรมเก่าที่เราทำมาแต่อดีตใช่หรือไม่ ทำอย่างไรจึงจะหนีหรือทำให้ความทุกข์ใจนี้ลดน้อยลงได้

    คำตอบ
        (1) คิดผิด
        (2) ใช่และไม่ใช่คือมีทั้งกรรมเก่าในอดีต ร่วมให้ผลกับกรรมใหม่ที่ทำในชาติปัจจุบัน
        (3) ต้องพัฒนาจิตตนเองให้มีสติสัมปชัญญะแล้วใช้สติสัมปชัญญะส่องนำทางให้กับชีวิต แล้วความทุกข์ที่มีอยู่จะลดน้อยลงจะอยู่กับทุกข์โดยไม่ทุกข์ และในที่สุดเมื่อเหตุปัจจัยลงตัวสามารถหนีพ้นไปจากทุกข์ได้

  2. ขณะรักษาศีล 5 อยู่ มีจิตอยากช่วยเหลือผู้ที่ถูกน้ำท่วมหลาย ๆ จังหวัดแต่ฐานะไม่ดีจึงนำเงินไปซื้อหวย เมื่อถูกแล้วนำเงินทั้งหมดที่ได้จากการถูกหวยไปทำบุญและช่วยเหลือผู้ถูกน้ำท่วมโดยไม่ได้นำเงินนั้นไปใช่ส่วนตัวถามว่าจะผิดศีลและบาปไหมค่ะ

    คำตอบ
       
    ไม่ผิดศีล แต่ผิดธรรมตรงที่มีจิตเข้าไปข้องเกี่ยวอยู่กับอบายมุขการซื้อหวยเป็นอบายมุขชนิดหนึ่ง

  3. เพศชายหรือเพศหญิง มีข้อได้เปรียบหรือเสียเปรียบในการปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุธรรมหรือไม่คะ

    คำตอบ
       
    ในการปฏิบัติธรรมของเพศหญิง มีวินัยที่ต้องประพฤติมากกว่าเพศชาย แต่เมื่อบรรลุธรรมได้แล้ว ทั้งเพศหญิงและเพศชาย ไม่มีใครได้เปรียบและไม่มีใครเสียเปรียบ

  4. เคยฟังท่านอาจารย์จากม้วนเทป ทำให้ตัวเองได้เข้าใจหลักการปฏิบัติธรรมจนสามารถพัฒนาจิตวิญญาณได้ แต่มีข้อหนึ่งที่อยากจะถามท่านว่า ท่านอาจารย์เคยบอกว่าการสวดมนต์คาถาชินบัญชร ไม่จำเป็นต่อท่าน แต่ผมสวดมนต์คาถาพาหุงฯ  อิติปิโส 108 คาถาชินบัญชร  9 จบน็ และพระธัมมจักร 1 จบ ทุกวัน แต่วันไหนไม่ได้สวด วันนั้นเงินก็ไม่มีลูกค้าก็ไม่มี ถ้าสวดมนต์มาก ๆ เงินกลับไม่ขาดมือ ไม่ทราบว่าท่านอาจารย์มีความเห็นอย่างไร

    คำตอบ

       
    การสวดมนต์คาถาชินบัญชร ไม่จำเป็นสำหรับผู้ตอบปัญหา เพราะผู้ตอบปัญหาเข้าถึงและมีธรรมของพระพุทธะอยู่ในใจ ซึ่งเป็นทรัพย์ภายในที่เมื่อตายแล้วทรัพย์ประเภทนี้สามารถติดตามข้ามภพชาติได้ทรัพย์ภายนอกจึงไม่เข้ามามีอำนาจเหนือใจ จึงไม่จำเป็นต้องสวดมนต์บทที่พูดถึง เพื่อประสงค์ให้เกิดทรัพย์ภายนอกมาสู่ตัว อย่างที่ผู้ถามต้องการและแสวงหา

  5. คนป่วยหนัก มักจะเห็นผี อมนุษย์ จะแนะนำผู้ป่วยนั้นอย่างไร

    คำตอบ
       
    ทำบุญ (ดูบุญกิริยาวัตถุ 10) แล้วอุทิศบุญให้กับอมนุษย์ที่ผู้ป่วยเห็นสิ จะได้มีเขาเป็นเพื่อนยังไงล่ะ

  6. การนั่งสมาธิ หายใจเข้าจดจ่อกับลมออก จำเป็นต้องมีครู อาจารย์ควบคุมหรือไม่ อันตรายไหมถ้านั่งเองคนเดียว

    คำตอบ
       
    การฝึกจิตให้มีสติด้วยการดูลมหายใจเข้า-ออก ไม่อันตรายและไม่จำเป็นต้องมีครูอาจารย์ควบคุม หากผู้ฝึกมีบุญมีบารมีสั่งสมมามาก จนกระทั่งจิตเข้าสู่ภาวะของการเป็นปัจเจกพุทธะ แต่จำเป็นสำหรับผู้ที่มีสภาวะจิตเข้าไม่ถึงความเป็นบุคคลดังกล่าว

  7. อุเบกขาของพรหมวิหาร 4 กับอุเบกขาของสัมโพชฌงค์ 7 มีความหมายเหมือนกัน หรือต่างกันอย่างไร ทำไมพระพุทธองค์จึงตรัสกล่าวซ้ำไว้ใน 2 แห่งน่ะครับ  

    คำตอบ
       
    สมมุติบัญญัติเรียกเหมือนกัน แต่คุณภาพของจิตต่างกันคืออุเบกขาในพรหมวิหาร 4 เกิดจากอำนาจของฌาน ส่วนอุเบกขาในโพชฌงค์ 7 เกิดจากอำนาจของปัญญาโลกุตร

  8. เคยผิดศีลในอดีต เมื่อรู้  ปัจจุบันพยายามไม่ผิดศีล 5   ถามว่าจะทำให้ปฏิบัติธรรมยากหรือไม่จะแก้อย่างไร

    คำตอบ
      
    อดีตผ่านไปแล้วแก้ไขใหม่ไม่ได้ แต่หากปัจจุบันทำใจให้มีศีลสถิตอยู่ได้ในทุกขณะตื่น จะทำให้การปฏิบัติธรรมบรรลุความสำเร็จได้ง่าย วิธีแก้ไขคือสร้างกำลังให้กับใจ ด้วยการเจริญพลธรรม 5 อยู่ทุกขณะตื่น เมื่อใจมีกำลังมากจนถึงขั้นแสดงผลแล้วศีลจะสถิตอยู่ในใจได้ตลอดเวลา
  9. เคยฝึกปฏิบัติธรรม แล้วเกิดคำหยาบในใจ ต่อจากนั้นเห็นพระหรือทุกอย่างในพุทธศาสนา ก็จะด่าด้วยคำหยาบคำนั้น แล้วก็เครียดแทบเป็นบ้า แต่พยายามบอกตัวเองว่าบ้าไม่ได้ คนอื่นจะดูถูกศาสนาว่าปฏิบัติธรรมแล้วบ้า ทุกวันนี้ไม่กล้าปฏิบัติอีกเลย อยากให้อาจารย์ช่วยแนะนำด้วยว่าจะทำอย่างจึงจะสามารถเอาชนะและสามารถปฏิบัติต่อไปให้ก้าวหน้าได้อีก

    คำตอบ
       
    ต้องเจริญพลธรรม 5 อยู่ทุกครั้งที่นึกได้ ทุกครั้งที่ว่างจากกิจการงาน ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องยาว ด้วยมีสัจจะและวิริยะเป็นแรงสนับสนุน ปฏิบัติจนกระทั่งใจมีกำลังอยู่เหนือกิเลสที่เข้ามาสู่ใจได้เมื่อไร มรรคผลในการปฏิบัติธรรมก็จะเกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่ท้อถอย ที่จะทำดีตามแนวทางของพระพุทธะ

  10. ถ้าพยายามศึกษาปฏิบัติจนเกิดปัญญาและปฏิบัติพัฒนาจิตตลอด พยายามปฏิบัติทุกขณะจิต แต่ถ้านั่งสมาธิไม่ค่อยได้นั่งไม่ได้นาน จิตจะสงบโดยไม่นั่งสมาธิจะได้หรือไม่

    คำตอบ
       
    จิตสามารถเข้าสู่ความสงบได้ในทุกอิริยาบถที่อยู่นอกเหนือการนั่ง เช่น เจริญสติในอิริยาบถยืน เดิน นอน กิน ตื่น พูด ฟัง ฯลฯ ดังมีตัวอย่างเช่นพระอานนท์บรรลุอรหัตผลได้ในอิริยาบถเอนกายลงก่อนหลังแตะพื้น

  11. ได้ยินเสียงพระสวดมนต์บ่อย ๆ (เหมือนพระลงโบสถ์)  ได้ยินชัดเจนมาเกือบ 5 ปีแล้ว ได้ยินโดยไม่จำกัดเวลา และสถานที่  เกิดจากเหตุใด

    คำตอบ
       
    เกิดจากจิตเข้าถึงความสงบระงับจากการปรุงอารมณ์อื่นใด นอกจากอารมณ์ของเสียงสวดมนต์

  12. ในฐานะที่ปฏิบัติกรรมฐานโดยใช้วิธีอานาปนสติ มีความรู้สึกเกิดความรู้สึกทางเพศค่อนข้างมากควรทำอย่างไรดีค่ะและในช่วงแรกที่นั่งเจริญกรรมฐาน ตอนตี 4 เจริญได้ครู่หนึ่ง
    เห็นพระพุทธรูปปรากฏแล้วตกใจรีบคลายสมาธิออก เกิดอย่างนี้ 2 ครั้งควรปฏิบัติอย่างไรต่อ ควรจะกำหนดลมหายใจต่อ หรือกำหนดไปที่พระพุทธรูปที่ปรากฏดีค่ะ

    คำตอบ
       
    ในขณะปฏิบัติกรรมฐานหากมีอารมณ์ทางเพศเกิดขึ้น ให้แก้ปัญหาโดยวิธีเร่งความเพียรให้การปฏิบัติฯให้มาก นั่งภาวนาสลับกันการเดินจงกรมให้มากกินอาหารให้น้อย กินเท่าที่ร่างกายจะทรงอยู่ได้ โดยเฉพาะอาหารมื้อเย็นไม่ควรกินและสุดท้ายลดการนอนให้น้อยลง พักอิริยาบถด้วยการนอนเพียง 4 ชั่วโมง หรือน้อยกว่านั้นแล้วปัญหาดังกล่าวจะหมดไป

       ส่วนเรื่องการเห็นพระพุทธรูปหรือเห็นภาพอื่นใดก็ตาม ให้ตั้งจิตกำหนดว่า “ เห็นหนอ ๆ ๆ ” จนกว่าภาพที่เห็นจะหายไป แล้วดึงจิตกลับมาสู่องค์บริกรรมเดิม


  13. อยากจะได้ธรรมะแบบอาจารย์ต้องทำอย่างไร

    คำตอบ
       
    แสวงหาครูอาจารย์ที่เป็นกัลยาณมิตรในทางธรรมกำจัดความอยาก (ตัณหา)ให้หมดไป ทุกขณะตื่นมีศีล 5 คุมใจ อธิษฐานจิตว่าจะปฏิบัติธรรมเต็มที่ได้แค่ไหนพอใจแค่นั้น รักษาสัจจาธิษฐานให้คงอยู่กินน้อย นอนน้อย ปฏิบัติมาก

  14. การปฏิบัติธรรมขึ้นอยู่กับอาชีพหรือไม่

    คำตอบ
       
    ปฏิบัติธรรมให้ได้มรรคผล ผู้ปฏิบัติต้องประกอบสัมมาอาชีวะ คืออาชีพต้องไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลและไม่ผิดธรรม

  15. การภาวนาพอง-ยุบ กับพุทโธ อย่างไหนได้สมาธิกว่ากันเพราะเวลากำหนดทุกอย่างที่ทำ  มันทำไม่ทัน เช่น คิดหนอ ปวดหนอ  แต่ถ้าภาวนาว่าพุทโธ ทุกอิริยาบถที่ทำจะสงบกว่าไหม

    คำตอบ
       
    เปรียบเทียบกันไม่ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจริตของผู้ปฏิบัติ ถ้าใช้อารมณ์กรรมฐานที่ไม่ถูกกับจริต การฝึกจิตให้เข้าถึงความตั้งมั่น (สมาธิ) ทำได้ยาก แต่ถ้าใช้อารมณ์กรรมฐานที่ถูกตรงกับจริตของผู้ปฏิบัติแล้ว จิตจะเข้าถึงความเป็นสมาธิได้ง่าย
    (ดูรายละเอียดในเรื่องกรรมฐาน 40 ของท่านปยุตฺโต)


  16. คนทำความดีหรือทำความชั่วเมื่อตายไปแล้วผลกรรมทำให้ตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ อยากถามว่าอะไรเป็นตัวที่ไปตกนรก หรือขึ้นสวรรค์  จิต เจตสิก ใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่เป็นอะไร

    คำตอบ
       
    เมื่อถึงวาระที่ต้องทิ้งขันธ์ลาโลก กรรมที่สั่งสมอยู่ในจิตจะเป็นแรงผลักดันจิตให้ไปแสวงหารูปอยู่ใหม่ หากจิตมีอกุศลกรรมสั่งสมและระลึกเห็นนิมิตไม่ดีก่อนตาย เช่น เป็นเปลวไฟ เห็นทะเลเพลิง เห็นหม้อเหล็กร้อนแดง เห็นต้นไม้มีหนามแหลม ฯลฯ แรงกรรมจะพาจิตไปเข้าอยู่อาศัยในร่างของสัตว์นรก ตรงกันข้ามหากจิตมีกุศลกรรมสั่งสม ด้วยการให้ทานและรักษาศีลอยู่เนืองนิตย์ และระลึกเห็นนิมิตดีก่อนตาย เช่นเห็นเทพบุตรเทพธิดา เห็นวิมาน เห็นบันไดทอง เห็นราชรถ ฯลฯ แรงกรรมจะผลักดันจิตไปเข้าอยู่อาศัยในร่างของชาวฟ้าชาวสวรรค์

  17. วิญญาณมีจริงหรือไม่เป็นวิทยาศาสตร์หรือไม่

    คำตอบ
       
    ถ้าวิญญาณหมายถึงจิต ก็ต้องบอกว่าวิญญาณมีจริงจิตเป็นพลังงานที่มีความถี่คลื่นละเอียด เครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่สามารถตรวจวัดได้ จึงไม่มีการศึกษาถึงเรื่องของจิตในทางตรง แต่มีการศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นในการทำงานของจิตซึ่งเป็นการศึกษาเรื่องของจิตในทางอ้อม

       หากผู้ถามประสงค์จะเข้าใจเรื่องของจิตอย่างถ่องแท้ต้องลงมือพิสูจน์ด้วยตนเอง ด้วยการนำตัวเองเข้าปฏิบัติสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน จนเข้าถึงวิปัสสนาญาณได้แล้ว จะเข้าใจเรื่องของจิตวิญญาณดียิ่งขึ้น


  18. ช่วยบอกวิธีกำจัดตัวต่อหัวเสือจะทำอย่างไรไม่เป็นการไปทำร้ายหรือเบียดเบียนเขา เพราะมีตัวต่อสร้างรังใหญ่มาก ๆ ในสวนทำให้คนงานดูแลสวนไม่กล้าเข้าไปทำสวนดูแลต้นไม้  และมีเด็กเล็ก ๆ เยอะ  เกรงจะได้รับอันตราย

    คำตอบ
       
    คำว่ากำจัดหมายถึง ขับไล่ ปราบ หรือทำให้หมดไปแค่คิดไม่ดี (อกุศลมโนกรรม) คิดกำจัดต่อหัวเสือที่มาอาศัยสวนเป็นที่สร้างรังอยู่อาศัยก็บาปแล้ว ทำไมไม่คิดจะอยู่ร่วมกับเขาอย่างสันติ ไม่เบียดเบียนกันพึ่งพาอาศัยกัน มีปฏิสัมพันธ์ดีต่อกัน มีเมตตาต่อกัน ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยมีความสงบและสุข

       ผู้ตอบปัญหาเคยไปขออาศัยปักกลดนอนอยู่ข้างกุฎิพระในป่าทางภาคอีสาน พระท่านอนุญาตแล้วบอกว่า ระวังนะโยมใต้ถุนกุฏินี้มีงูพิษอาศัยอยู่ ผู้ตอบปัญหาได้กล่าวคำขอบคุณแล้วพูดว่า ไม่เป็นไรครับ จะขออนุญาตงูพิษพักอาศัยสักหนึ่งคืน และได้แผ่เมตตาให้กับเขาก่อนนอน คืนนั้นนอนหลับดีและมีความสันติเกิดขึ้นในใจ

    หมายเหตุ หากคุณยังคิดกำจัดเขาอยู่ ต้องขออภัย ผู้ตอบปัญหาไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ จึงไม่สามารถให้ความเห็นที่ผิดแก่ผู้ถามได้


  19. ถ้าเราฝันเห็นคนที่เสียไปแล้วแต่ฝันในรูปที่เขาตัวเป็น ๆ คือยังไม่ตายจะเป็นความจริงหรือไม่เพราะตอนเป็นก่อนเสียชีวิตเขาไว้ผมยาว แต่พอเขาใกล้เสียเขาตัดผมสั้น เนื่องจากเป็นมะเร็ง อยากทราบว่า เป็นความฝันจริงหรือ ความฝันแบบเราคิดถึงเขาเอง

    คำตอบ
       
    ฝันเป็นการเห็นเรื่องราวเมื่อหลับไม่สนิท เป็นการหวนกลับของสัญญาที่จิตบันทึกไว้ ดังนั้นที่คุณฝันเห็นคนตายในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นการฝันจริงของคุณ

  20. สติ-สัมปชัญญะ ในชีวิตประจำวัน กับสติปัฏฐาน 4 ในการเจริญวิปัสสนาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร

    คำตอบ
       
    สติหมายถึง ความระลึกได้ นึกได้ ไม่ลืม ฯลฯ ส่วนคำว่า สัมปชัญญะหมายถึง ความรู้ตัวอยู่เสมอ ความรู้ชัดในสิ่งที่นึกได้ ฯลฯ ทั้งสองคำนี้มักจะใช้เรียกคู่กันว่า “ สติสัมปชัญญะ ” คนในปัจจุบันส่วนใหญ่ขณะตื่นมีสติคุมจิตเล็กน้อย ดังนั้นความรู้ชัดในสิ่งที่นึกได้จึงไม่ค่อยมี พูดโดยรวมได้ว่า คนในปัจจุบันส่วนใหญ่ดำเนินชีวิตด้วยการใช้สติสัมปชัญญะนำเพียงเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้จึงเป็นต้นเหตุให้จิตสั่งสมอกุศลกรรมมากกว่ากุศลกรรม เมื่อกรรมให้ผลจึงออกมาในรูปของพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความไม่สงบสุขของสังคมมากกว่าความสงบสุข

       ส่วนคำว่า สติปัฏฐาน 4 หมายถึงการตั้งสติพิจารณา กาย เวทนา จิตและธรรม ให้เห็นถูกตรงตามความเป็นจริงแท้ (ปรมัตถสัจจะ) นั่นหมายความว่า การศึกษาความจริงเกี่ยวกับเรื่องทั้ง 4 ในแนวทางการพัฒนาปัญญาไอคิว ที่ประพฤติกันอยู่ในปัจจุบัน ยังเป็นการเห็นความจริงในเรื่องทั้ง 4 เป็นจริงแบบชั่วคราว (สภาวสัจะ) ยังไม่ใช่เป็นความจริงแท้


  21. เราจะทำให้จิตเป็นอิสระได้อย่างไร เพื่อไม่ให้ตกเป็นทาสของวัตถุ

    คำตอบ
       
    พัฒนาปัญญาเห็นแจ้งให้เกิดขึ้น โดยนำตัวเองเข้าสู่การปฏิบัติกรรมฐาน เมื่อบรรลุ มรรคผลเกิดปัญญาเห็นแจ้ง เห็นถูกตรงตามความเป็นจริงแล้ว ต้องรักษาปัญญาเห็นแจ้งให้คงอยู่ แล้วใช้ปัญญาเห็นแจ้งส่องนำทางให้กับชีวิต จิตจึงจะรู้เท่าทันวัตถุ ใช้วัตถุให้เกิดประโยชน์ได้ประโยชน์จากวัตถุ และที่สำคัญจิตไม่เป็นทาสของวัตถุ ลองทำดูสิทำได้แล้วดีนะ

  22. การตายด้วยอุบัติเหตุ ตัวเองดื่มสุราและตายในขณะมึนเมาถือว่าผิดศีลตายไปแล้วจะได้เกิดหรือไม่

    คำตอบ
       
    ได้เกิดใหม่แน่นอน เพราะกิเลสยังไม่หมดไปจากใจแต่จะเกิดในรูปของสัตว์ในอบายภูมิ หรือเกิดในรูปของสัมภเวสีซึ่งขึ้นอยู่กับแรงกรรม ที่ผู้ตายได้กระทำ และสั่งสมไว้ก่อนตายนั่นเอง
  23. น้องสาวป่วยหนัก เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย จะให้คีโมในวันอังคารที่จะถึงนี้ ปรารถนาที่จะให้อาจารย์เมตตาให้ข้อธรรมะแบบกระชับสั้นแก่ผู้ป่วย เพื่อเป็นที่พึ่งในยามอยู่ทุกขเวทนาทั้งนี้การรักษาก็ยังไม่ทราบว่าจะสัมฤทธิ์ผลแค่ไหน  ปาฏิหาริย์มีจริงไหมที่จะช่วยให้หายป่วย

    คำตอบ
       
    แผ่เมตตาให้แก่ผู้ป่วยนั้น ถ้าคุณมีเมตตาก็สามารถแผ่ให้ได้ ส่วนผู้ป่วยจะอยู่ในสภาพที่จะรับได้หรือไม่นั้นอีกเรื่องหนึ่ง การกระทำที่ดีกว่าในยามนี้คือ ผู้ป่วยต้องช่วยตัวเอง ด้วยการเจริญอานาปานสติอยู่บ่อย ๆ แล้วอุทิศความดีที่ทำแล้วในแต่ละครั้งให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ที่ทำให้เขาต้องมารับอกุศลวิบากนี้ นั่นแหละเป็นการช่วยให้ความทุกข์บรรเทาลง

       ถามไปว่าปฏิหารย์มีจริงไหม ที่จะช่วยให้เขาหายป่วยต้องตอบว่าปฏิหาริย์มีจริงดังตัวอย่างที่ผู้ตอบปัญหาได้พบและพูดคุยกับชาวอเมริกาที่มาบวชเป็นภิกษุในพุทธศาสนา ซึ่งอดีตเคยป่วยเนื่องจากเกิดเนื้องอกในสมองเมื่อปฏิบัติจิตตภาวนาจนถึงขั้นให้ผลแล้ว เนื้องอกในสมองหายไปโดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดด้วยวิธีการทางแพทย์แผนปัจจุบัน


  24. มีเพื่อนที่สนิทรักกันมาก แล้วเขาเสียชีวิตไป ทำไมเขาไม่เคยมาเข้าฝันเลย แต่เขาไปให้คนอื่นเห็น ไปเข้าฝันคนอื่นเพราะ เขาสื่อกันเราไม่ได้ใช่หรือไม่คะ และจะมีวิธีสื่อกับคนเสียไปแล้วบ้างไหมช่วยแนะนำด้วย

    คำตอบ
       
    ต้องจูนความถี่คลื่นจิตให้ตรงกับเขา ด้วยวิธีการปฏิบัติสมถกรรมฐาน เมื่อความถี่คลื่นจิตตรงกัน โอกาสที่จะสื่อสารกับผู้ตายจึงจะเป็นไปได้

  25. มีเพื่อนเขาบอกว่ารู้จักบุคคลผู้ซึ่งถึงนิพพานได้  แต่บุคคลนั้นเขาก็เหมือนอย่างปุถุชนทั่วไปคือยังใช้ชีวิตอยู่กินหลับนอนกับสามีอยู่บ้านกับลูกเช่นนี้  จะมีจริงหรือไม่คะ และจะเป็นไปได้ไหม  คล้าย ๆ กับว่าเป็นระดับโสดาบันแล้วใช่ไหม

    คำตอบ
       
    ที่เพื่อนพูดนะมันถูกของเขา แต่ไม่ใช่นิพพานของพระพุทธะโคดมแล้วคุณจะเชื่อคนไหนล่ะ

  26. เคยขับรถชนสุนัขด้วยเหตุสุดวิสัย แต่ไม่เสียชีวิตได้ยินเสียงร้อง (มองไปที่กระจกรถ) ด้วยความเจ็บปวดดิฉันได้ซื้อยาต่างๆ โดยเฉพาะยาเกี่ยวกับบาดแผล ไปถวายพระและตั้งจิตอธิษฐานให้บุญที่ทำนี้ให้กับสุนัขตัวที่ชน ทำอย่างนี้จะช่วยให้ตัดกรรมเวรได้ไหม

    คำตอบ
       
    จะตัดกรรมเวรกับสุนัขตัวที่คุณขับรถไปชนได้ ก็ต่อเมื่อสุนัขตัวนั้นเลิกจองเวรกับคุณนั่นแหละ

  27. ได้นำข้าวสารบรรจุถุง 5 กก.ที่มีมดขึ้นเข้าตู้เย็นเวลาจะหุงข้าว ตอนล้างข้าวเห็นมดตายมากมายดิฉันจะทำอย่างไรได้บ้าง เพื่อลดบาปอันนี้หรือชดใช้เขาไปก่อนที่เขาจะมาทวง

    คำตอบ
       
    ต้องทำบุญอยู่เสมอ โดยเฉพาะบุญที่ให้อานิสงส์มาก เช่นปฏิบัติกรรมฐาน แล้วอุทิศบุญกุศลให้แก่มดฝูงนั้นเรื่อย ๆ นั่นแหละดี

  28. มีหนูในบ้านที่รบกวนมากหลายปี ซ่อมบ้านไป 1-2 ครั้งแล้ว จะทำอย่างไรให้เขาไปอยู่ที่อื่น ทำบุญแล้วอธิษฐานให้เขาไปอยู่ที่อื่นได้ไหม

    คำตอบ
       
    หลังจากทำบุญแล้วคุณสามารถอธิษฐานได้ แต่เขาจะไปอยู่ที่อื่นหรือไม่ มันเป็นเรื่องของหนู คนโบราณแก้ปัญหาเช่นนี้ด้วยการเลี้ยงแมวไว้ที่บ้าน

  29. อธิบายพละ 5 และ โพชฌงค์ 7 ตามแบบชาวบ้าน

    คำตอบ
       
    พละ ๕ เป็นคุณธรรมที่เมื่อปฏิบัติได้แล้วจะทำให้จิตมีกำลังกล้าแข็ง สามารถต้านทานกิเลสต่าง ๆ ได้ คือทำตัวเองให้มีความศรัทธาในศีลในธรรมในเหตุผลที่ถูกต้องดีงาม ทำตัวเองให้มีความเพียรที่จะทำความดีในทุกรูปแบบ เช่นเพียรป้องกันสิ่งดีไม่ให้เข้าสู่ใจ เพียงกำจัดสิ่งไม่ดีที่สั่งสมอยู่ในใจให้หมดไป เพียรทำความดีใด ๆ ที่ไม่เคยทำให้มีความดีมากยิ่งขึ้นเพียรรักษาความดีให้คงอยู่กับตัว เพียรฝึกจิตให้มีสติ มีสมาธิ มีปัญญาเห็นถูกตรงตามเป็นจริง

    ส่วนโพชฌงค์ 7 เป็นคุณธรรมที่เกิดขึ้นในใจของผู้รู้แจ้ง คือมีสติระลึกทันทุกสิ่งกระทบ ที่เข้าทางหู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ มีปัญญาสอดส่องสืบค้นวิจัยธรรมอยู่เสมอ มีความเพียรป้องกันสิ่งเศร้าหมองไม่ให้เข้าสู่ใจ เพียรกำจัดสิ่งเศร้าหมองที่ผูกมัดใจสัตว์ (สังโยชน์ 10) ให้หมดไปจากใจจิตมีความอิ่มใจ มีความสงบเกิดในกายใจ มีจิตตั้งมั่น และมีจิตปลอดจากอารมณ์ปรุงแต่งอันเนื่องจากสิ่งกระทบภายนอก


  30. มีวัตถุมงคลที่ได้รับจากการทำบุญและจากที่เราใฝ่หาเข้ามา พอมากเข้า ๆ มีทั้งรูปพระพุทธ พระสงฆ์ พระศิวะ พระพิฆเนศ มากมายจนเริ่มสับสนในการกราบไหว้บูชาอย่างนี้เรียกว่ายังติดในวัตถุใช่หรือไม่

    คำตอบ
       
    การแสวงหาวัตถุมาไว้ในครอบครอง ถือว่ามีจิตเป็นทาสของวัตถุ ไปทำบุญแล้วได้รับแจกวัตถุ เอาไว้เป็นที่ระลึกถึงคุณของผู้ที่ควรมูลโดยไม่หลงเอาวัตถุเป็นที่พึ่ง อย่างนี้เรียกว่ามีใจไม่เป็นทาสของวัตถุ

  31. ยังมีภาระหนี้สิน  ดังนั้นเวลาทำบุญ ปฏิบัติธรรมจึงขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ขายที่ดินได้ เพื่อต้องการปลดปล่ยอตนเองจากการที่เคยเบียดเบียนเจ้าหนี้และผู้มีพระคุณที่เคยช่วยเหลือ  ทำอย่างไรจึงจะทำให้จิตหลุดพ้นจากทุกข์นี้ได้  และพอมีปัจจัยเหลือพอเลี้ยงดูขันธ์ 5 และพอทำนุบำรุงพระศาสนา จนชีวิตดับขันธ์

    คำตอบ
       
    ในศาสนาพุทธ พระพุทธะไม่ได้สอนให้พุทธบริษัท ทำตัวเป็นผู้ขอสิ่งใด ๆ จากใคร แต่สอนให้ทำให้เกิดมีขึ้นด้วยตัวเอง ดังนั้นการขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงมิใช่วิธีการได้มาของผู้เป็นชาวพุทธแท้ ถ้าประสงค์จะมีคุณธรรมอันเป็นบ่อเกิดแห่งบารมี ต้องปฏิบัติ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตาและอุเบกขา หากผู้ถามปัญหามีคุณธรรมเหล่านี้สถิตอยู่ในจิตใจได้เมื่อใดแล้ว ก็จะประสบความสำเร็จดังที่ปรารถนา

  32. การทำบุญร่วมกัน จะเกิดผลอย่างไรบ้างค่ะ เช่นร่วมเงินทำใส่ซองเดียวกันแล้วบอกว่าชาติหน้าขอเกิดมาเป็นพี่น้องกัน

    คำตอบ
       
    ที่บอกไปเป็นเพียงเหตุอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้กลับมาเกิดเป็นพี่น้องกัน หากทั้งสองคนทำเหตุอื่นที่ไม่ตรงกัน เช่น คนหนึ่งประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรม แต่อีกคนหนึ่งประพฤติทุศีลไร้ธรรม ยังอยากเกิดเป็นพี่น้องกันอยู่อีกหรือ ทำไมไม่ร่วมทำใจให้มีทาน ศีล ภาวนา แล้วให้มีอยู่ในใจ จะมิดีกว่าหรือ

  33. โอฆะเป็นธรรมเปรียบเหมือนห้วงน้ำ ช่วยอธิบาย

    คำตอบ
       
    ถ้าถามผู้ที่เคยมีประสบการณ์ฝึกจิต จนเข้าถึงโลกิยอภิญญาที่เรียกว่า ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ได้เห็นตัวเองไปเกิดเป็นสัตว์ในภพต่าง ๆ จึงจะเข้าใจแบบผู้ที่มิได้ศึกษาเล่าเรียนมาทางด้านปริยัติว่า โอฆะ หมายถึงการเวียนตาย เวียนเกิด ของสัตว์ในวัฎสงสารนั่นเอง

         คำตอบนี้อย่าปลงใจเชื่อ ถ้าอยากรู้ว่าคำตอบนี้เป็นจริงหรือไม่ ต้องปฏิบัติสมถภาวนาจนจิตเข้าถึงความเป็นฌานดูสิ


  34. คันถะ เปรียบเหมือนเครื่องคล้องสัตว์ช่วยอธิบาย

    คำตอบ 
       
    คันถะเป็นสมมติบัญญัติ ที่หมายถึงสิ่งเศร้าหมอง (กิเลส) ที่ผูกมัดใจสัตว์ให้คิดอยู่กับการเวียนตาย เวียนเกิด ในภพต่าง ๆ ในสังสารวัฏ บรรดาสิ่งเศร้าหมองทั้งปวง ที่เข้ามามีอำนาจอยู่เหนือใจสัตว์เกิดจากต้นเหตุ คือความรู้ไม่จริง (อวิชชา) ที่มีอยู่ในใจของสัตว์นั่นเอง

  35. ถ้ามีลูกน้องเป็นคนโลภทำอย่างไรจึงจะแก้ได้

    คำตอบ
       
    พระพุทธะสอนให้แก้ไขปัญหาที่ตัวเอง มิได้สอนให้ไปแก้ปัญหาที่คนอื่น ลูกน้องเป็นคนโลภ ลูกน้องต้องฝึกตัวเองให้เป็นผู้ให้ทานให้ได้ก่อน หมั่นให้บ่อย ๆ จนกระทั่ง ทานบารมีกล้าแข็งมากพอ ความโลภจึงจะหมดไปจากใจของเราได้

  36.    ธรรมอดีตกับธรรมปัจจุบันแตกต่างกันอย่างไร ทำไมพระสงฆ์อดีตและพระสงฆ์ปัจจุบันแตกต่างกันมากเหลือเกิน

    คำตอบ
       
    ธรรมในอดีต กับธรรมในปัจจุบันเป็นธรรมเดียวกันเหตุที่พระสงฆ์ในอดีตกับพระสงฆ์ในปัจจุบันแตกต่างกันมาก เพราะพระสงฆ์ในอดีตมีบุญบารมีและมีสติสัมปชัญญะสั่งสมอยู่ในจิตมากกว่าพระสงฆ์ในปัจจุบัน

  1. การที่เรามีความโกรธคือเคยมีคนทำให้โกรธและรู้สึกว่าเกลียดคนๆนั้นมากรู้ว่ามันไม่ดีเป็นการอาฆาต อยากวางควรทำอย่างไรนอกจากช่างมัน  หากอุทิศกุศลให้  เขาจะวางได้หรือไม่ อยากหลุดจากความอาฆาตนี้

    คำตอบ
       
    ความโกรธต้องแก้ด้วยการเจริญเมตตา ด้วยการให้อภัยเป็นทาน เพราะการให้อภัยเป็นบ่อเกิดแห่งความเมตตา หากผู้ผูกโกรธยังปฏิเสธการให้อภัย แล้วความโกรธจะหมดไปจากใจได้อย่างไร ความโกรธนี้หากปล่อยให้เข้ามามีอำนาจเหนือใจมาก ๆ เมื่อถึงคราวต้องทิ้งขันธ์ลาโลกแล้วโอกาสไปเกิดเป็นสัตว์ในนรก มีได้เป็นได้นะ จะบอกให้

    การอุทิศกุศลให้กับผู้ผูกโกรธ ไม่สามารถปัญหาความโกรธที่มีอยู่ในจิตใจของเขาได้ เหมือนกับคนไข้ที่กินยาไม่ถูกตรงกับโรค นั่นแหละรักษาโรคให้หายไม่ได้


  2. จำเป็นไหมในการที่จะเจริญสติ กรรมฐานภาวนาเพื่อให้พ้นจากความทุกข์  แล้วงานประจำอยู่จะทำอย่างไรดี  ต้องลาออกจากงานหรือไม่

    คำตอบ
       
    ผู้ตอบปัญหาได้ทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วไง เวลาทำงานใช้ปัญญาไอคิวทำงานให้กับสังคมบ้านเมือง เวลานอกงานก็เจริญจิตตภาวนาให้กับตัวเอง ไม่จำเป็นต้องลาอกกจากงาน ไปตุหรัดตุเหร่อยู่ในที่ไหน ๆ ให้ขาดรายได้ เลี้ยงปากท้องโดยไม่จำเป็น

  3. การที่เรายอมคนอื่นให้เขาเอาเปรียบ เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่  ทั้งต่อตัวเราและตัวเขา

    คำตอบ
        เขาเอาเปรียบเรายังไม่สำคัญเท่ากับเราไปเอาเปรียบเขา เพราะเมื่อใดที่เราไปเอาเปรียบเขา นั่นเป็นข้อบ่งชี้ความเห็นแก่ตัวที่มีอยู่ในจิตใจของเรานั่นแหละ การที่เรายอมให้คนอื่นเอาเปรียบ แสดงว่าเขากำลังฝึกเราให้มีความงอกงาม ในทานบารมี (ให้อภัยเป็นทาน) ในขันติบารมีในเมตตาบารมี ในอุเบกขาบารมี ฯลฯ เมื่อเห็นถูกต้องอย่างนี้แล้วยังจะคิดปฏิเสธบุญคุณของครูผู้เอาเปรียบเราอยู่อีกหรือ

  4. วันนี้ได้มีโอกาสรับการบรรยายธรรมจากอาจารย์  แต่ก็ไม่สามารถที่จะไปเฝ้าอาการของบิดาของสามี การกระทำในวันนี้ถือว่าผิดหรือไม่

    คำตอบ
       
    เรื่องนี้เป็นความเห็นผิดของใคร อุปติสสะทิ้งแม่ออกบวชเป็นพระสงฆ์ (พระสารีบุตร) อยู่ในพุทธศาสนา คนทั่วไปมองว่าพระสารีบุตรไม่ปฏิบัติจริยธรรมลูกที่ดี เป็นคนอกตัญญู ก่อนตายท่านได้กลับไปตายที่บ้านเกิดพร้อมทั้งสอนธรรมให้แม่ผู้มีความเห็นผิด ให้กลับมาเป็นผู้มีความเห็นถูกจนสามารถบรรลุธรรมขั้นสูง ได้เป็นอริยบุคคลขั้นโสดาบัน ตรงกันข้ามกับคนที่นั่งเฝ้าแม่อยู่ที่บ้าน ไม่มีใครสักคนแก้ไขความเห็นผิดของแม่ได้เหมือนกับที่พระสารีบุตรได้กระทำ เพื่อตอบแทนพระคุณของแม่ ผู้ถามปัญหาคิดว่าผิดไหมล่ะ ที่ละทิ้งพ่อของสามีผู้กำลังเจ็บป่วย เพียงชั่วครั้งคราวเพื่อไปฟังธรรม จะได้เป็นการพัฒนาสติปัญญาของตัวเองให้มีความเห็นถูกตรง เมื่อพัฒนาตนเองได้อย่างนี้แล้ว กลับมาปรนนิบัติดูแลคนป่วยจะทำได้ถูกตรงและมีคุณภาพที่ยิ่งขึ้น รักษากายคนป่วยยังมีอานิสงส์น้อยกว่าการรักษาใจไม่ให้ป่วยเป็นไหน ๆ นะจะบอกให้

  5. ปัจจุบันสภาวะแวดล้อม และปัจจัยเสี่ยงมีมากที่สามารถทำให้คนเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้มากขึ้น แม้ระมัดระวังแล้วแต่ยังเห็น  เช่น มะเร็ง หัวใจ ไตวาย เป็นต้น สามารถให้ธรรมะมาให้ในการตำราชีวิตของคนที่เป็นโรคร้ายแรงได้อย่างไร

    คำตอบ
       
    ร่างกายที่เจ็บป่วย แม้จะมีหมอมือดีมารักษาให้หายป่วยได้แต่ในที่สุดยื้อยุดร่างกายไว้ไม่อยู่ จำต้องส่งคืนกลับสู่ธรรมชาติดั้งเดิม ทุกคนแน่นอน เมื่อรู้อย่างนี้แล้วยังหลงคิด จะเอาร่างที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง โรคไตวาย โรคหัวใจ ไว้อยู่อีกหรือ ทำไม่ไม่ทำใจให้มี ทาน ศีล ภาวนา แล้วให้มีอยู่ในใจ เมื่อถึงวาระลาโลก จะได้ไปเกิดใหม่ในร่างกายที่โรคดังกล่าว เข้าเบียดเบียนไม่ได้หรือไม่เจ็บป่วยด้วยโรคใด ๆจะมิดีกว่าหรือ

  6. ตามที่มีผู้ประกาศแจ้งความหน้า นสพ. ถึงบุคคลในภาพที่หายตัวไป อันอาจจะมาจากการทำผิดคดีต่าง ๆ โดยมีรางวัลให้แก่ผู้ชี้เบาะแสด้วยนั้น เมื่อบังเอิญเราไปพบที่อยู่  รวมทั้งแจ้งชี้นำไปจนทำให้ 2 ฝ่ายต้องพบกันจนได้ จะเป็นกุศลที่เราช่วยเหลือคนที่อยากให้ช่วยหรือไม่ ถ้าผู้ที่ถูกชี้ ทราบว่าเราเป็นผู้ชี้ช่องบอกไป จนเขาเดือดร้อนจะกลายเป็นว่า เราเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมสร้างเวรไปซ้อนกรรมหรือไม่

    คำตอบ
       
    เป็นผู้ร่วมกระบวนกรรม ได้บุญเพราะช่วยเหลือฝ่ายหนึ่ง และได้บาปเพราะก่อเวรกับอีกฝ่ายหนึ่ง

  7. หากหวังมรรคผลนิพพานในชาตินี้ควรบวชหรือควรรับราชการต่อเพราะตอนแรกตั้งใจรับใช้ชาติแต่เกรงว่าจะล่าช้าเกินการปฏิบัติธรรมมากกว่าจะมุ่งมั่นปฏิบัติจริงจัง

    คำตอบ
       
    หวังมรรคผลนิพพาน แสดงว่าคุณเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ เมื่อใจตั้งเป้าหมายไว้ที่มรรคผลนิพพาน แล้วต้องทำให้ถูกตรง คือปฏิบัติทาน ศีล ภาวนา จนกระทั่งเหตุปัจจัยลงตัวแล้ว มรรคผลนิพพานก็จะปรากฏเป็นจริงแก่คุณได้

  8. การทำความสะอาดบ้าน สวน ซึ่งมีสัตว์แมลงมดอยู่จะเป็นบาปไหมและควรปฏิบัติอย่างไร

    คำตอบ
       
    ถ้าไม่มีเจตนาฆ่าหรือทำร้ายชีวิตอื่นก็ไม่ผิดศีลข้อปาณาติบาตเป็นเพียงบาปเล็กน้อยที่ทำให้สัตว์เหล่านั้นเดือดร้อน ควรทำบุญอยู่เสมอ แล้วอุทิศบุญให้กับสัตว์ที่เดือดร้อนเพราะคุณ ชีวิตก็ยังสามารถอยู่ได้อย่างปกติ

  9. ความฝันเกี่ยวกับจิตอย่างไร

    คำตอบ
       
    สิ่งกระทบภายนอกเข้าสัมผัสจิต แล้วจิตเก็บสิ่งกระทบเหล่านี้ไว้เป็นความจำ (สัญญา) เมื่อนอนหลับแต่หลับไม่สนิท แล้วจิตหวนระลึกถึงสัญญาเก่าที่จิตเก็บสั่งสมไว้จึงแสดงออกให้จิตได้รับรู้ในรูปของความฝันนั่นแหละ

  10. จริงหรือไม่เมื่อฝึกจิตจนมีกำลัง  เมื่อร่างกายสูญสิ้น จิตมีแรงเหวี่ยงก็จะหลุดพ้น

    คำตอบ
       
    ไม่จริง ตราบใดที่กิเลสยังมีอยู่ในใจ ต่อให้มีแรงเหวี่ยงมากแค่ไหน ยังไม่สามารถทำให้จิตหลุดพ้น (นิพพาน) ตามแนวของพระพุทธะได้หรอก แท้จริงแล้วจิตสั่งสมแรงกรรมและแรงกรรมนี้แหละพาจิตไปเข้าร่างใหม่ เกิดเป็นสัตว์ในภพต่างๆ ในสังสารวัฎ หรือสั่งสมแรงกรรมได้ถูกตรงก็สามารถหลุดพ้นจากสังสารวัฏ (ไร้รูปไร้นาม) ได้

  11. จิตก่อนตายถ้าเราปฏิบัติดีมีทัศนคติที่ดี ในปัจจุบันเกิดการสั่งสมก่อนตายสิ่งที่ทำดีเราจะคิด ๆ จิตมีเข็มทิศนำไปในภพภูมิดีใช่ไหมค่ะ

    คำตอบ
        ปกติแล้วจิตมนุษย์มีทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดีสั่งสมอยู่ในดวงจิต ทำกรรมดีอยู่เสมอ ทำกรรมดีให้ยิ่งใหญ่ ก่อนตาย โอกาสของจิตระลึกถึงกรรมดีมีมาก หากจิตหลุดจากร่างในขณะระลึกถึงกรรมดี จิตจะโคจรไปเข้าอยู่อาศัยในร่างใหม่ในภพที่ดี เกิดเป็นมนุษย์ เทวดา หรือพรหม อย่างใดอย่างหนึ่งตามประเภทของกรรมดีที่ทำไว้

  12. เวลาเพ่งในอากาศเห็นละอองสีเทา ๆ คืออะไร

    คำตอบ
        ภาพมายาของจิต หากไม่สามารถทำให้ภาพนี้หายไป วิปัสสนาญาณจะไม่เกิดขึ้น

  13. เวลานอนเห็นละอองส้ม ๆ หรือผิวกายรู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่รอบ ๆ คล้ายไฟช๊อต

    คำตอบ
        เป็นเพียงการบอกเล่า ไม่ได้ถาม จึงไม่ต้องตอบ

  14. การที่ท่านอาจารย์ได้ชี้แจ้งบรรยายไว้ว่า ตั้งแต่เราจะเกิดมาต้องพึ่ง ครรภ์แม่อยู่เป็นเวลา 10 เดือน  ขอเรียนถามท่านอาจารย์ช่วยขยายความด้วย  เพราะในทางวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เรียนมาก็ถือว่า 9 เดือน

    คำตอบ
       
    นับแต่เริ่มมีการพัฒนาเป็นเซลล์ไข่ จนกระทั่งคลอดออกมาเป็นทารก รวมประมาณ 10 เดือน บวกลบเล็กน้อยตามการผันแปรของร่างกายผู้เป็นแม่

 

ข้อ 1-50   51-100   101-150   151-190